*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ช่วงที่สองเวลา 08.30น.*

 +++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมกำกับรัฐวิสาหกิจหรือซุปเปอร์บอร์ด ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีโครงสร้างคล้ายกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีหัวหน้า คสช. หรือนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ส่วนกรรมการจะมาจากผู้ที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจด้านต่างๆ  ซุปเปอร์บอร์ดรัฐวิสาหกิจ จะมีหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์การบริหารรัฐวิสาหกิจ การดูแลแต่งตั้งคนเข้ามาเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจให้มีความเหมาะสม พิจารณาอนุมัติการลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้มีความเชื่อมโยงกันและไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน คาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้  มีรายงานว่า กรรมการของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังไม่ยอมลาออก เพื่อเปิดทางให้กระทรวงการคลังแต่งตั้งคนที่มีความเหมาะสมเข้าไปบริหาร ดังนั้น ซุปเปอร์บอร์ดจะใช้อำนาจตรงนี้ถอดถอนและแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจได้ ทำให้การบริหารงานรัฐวิสาหกิจคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ซุปเปอร์บอร์ดยังจะเข้ามาตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ก่อนการอนุมัติดำเนินการ

 +++การประชุมคณะกรรมการบริหารปตท.พรุ่งนี้ ที่ประชุมจะพิจารณาแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่  คาดว่าจะมีรายชื่อของนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงพลังงาน และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย นายพรชัย รุจิประภา อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงแรงงาน มีรายงานว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ น่าจะนั่งกรรมการปตท.เช่นเดิม  

+++สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีข้อเสนอแนะว่าควรมีการบริหารความเสี่ยงสต็อกน้ำมัน รวมถึงก๊าซธรรมชาติ และติดตามปัจจัย ที่อาจจะให้เกิดความผันผวนด้านราคาน้ำมัน  เน้นในด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น โดยอาจจะใช้วิธีการซื้อเทคโนโลยีและนำมาต่อยอดด้านนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเร็วกว่าการทำวิจัยด้วยตัวเอง

 +++นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) เปิดเผยว่า ขณะนี้บอร์ดสำนักงานสลากฯ ได้มีมติแต่งนายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสำนักงานสลากฯ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ คนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยหลังจากนี้ นายจรินทร์ จะเรียกประชุมคณะกรรมการสรรหา เพื่อประกาศหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครชิงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ แทนคนเก่าที่ได้ลาออก

 +++ทญ.กุณฑีรา ตันติรังสี รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังหารือกับตัวแทนระดับผู้ช่วยกรรมการฝ่ายบริการและฝ่ายกฎหมายของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ถึงกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ก.ค.สูญหายจำนวน 4.28 หมื่นฉบับ หรือ 428 เล่ม มูลค่ากว่า 1.72 พันล้านบาทว่า ทาง ปณท. ระบุว่า ระเบียบของบริษัทจะมีการจ่ายชดเชยให้พัสดุที่ไม่ลงทะเบียนห่อละ 1,000 บาทเท่านั้น กรณีของสลากมีจำนวน 2 ห่อก็คิดเป็นเงินเพียง 2,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างมาก สำนักงานสลาก ขอให้ไปรษณีย์ไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อย่างไร เนื่องจากตลอดระยะเวลา 30 ปี สำนักงานสลากฯ ไม่เคยส่งแบบลงทะเบียนหรือทำประกัน เพราะจะทำให้มีต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้นและก็ไม่เคยเกิดปัญหาขึ้น มาก่อน  ในอนาคตสำนักงานสลากฯ คงต้องทำประกันสลากกินแบ่งที่จัดส่งไปตามต่างจังหวัดด้วย โดยต้องหาแนวทางบริหารต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย

 +++การเดินหน้านโยบายการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะจากความร่วมมือของ 9 หน่วยงาน วันนี้เจ้าหน้าที่จะเชิญผู้ประกอบการรถตู้โดยสารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิร่วม 4,000 คัน และที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกกว่า1,000 คัน ชี้แจงแนวทางการจัดระเบียบที่จะเริ่มต้นวันที่ 1 ก.ค.นี้ เบื้องต้นจะจัดระเบียบจุดจอดรถ โดยนำรถตู้ไปจอดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และจัดการจราจรเข้าออกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างเป็นระบบ

  +++เรื่องเศรษฐกิจภาพรวม นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือน พ.ค. ต้องติดตามภาวะการส่งออกของไทยจะกลับมาฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกหรือไม่ หลังจากการส่งออกในเดือน เม.ย.ส่งออกได้แค่ 17,249 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึงร้อยละ 0.87 และหดตัวลงต่อเนื่องจากที่หดตัวร้อยละ3.12 เมื่อเดือน มี.ค.

 +++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เชิญผู้แทน บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด และผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หารือแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค

 +++ร.ต.ท.ธรรศพงศ์ เดชวรไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ รับแจ้งคนร้ายใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงรถและทำร้ายร่างกายหญิงสาวภายในห้างดัง ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางบอน เขตประเวศ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาปิดล้อมค้นหาคนร้ายนาน 2 ชั่วโมง คนร้ายชื่อนายลิม จุน วู (Mr.Lim Jun Woo) อายุประมาณ 43 ปี เป็นชาวเกาหลีใต้ อ้างเป็นใบ้ และเดินทางมาท่องเที่ยวที่ไทยและถูกขโมยทรัพย์สิน จึงหาเงินด้วยการปล้นทรัพย์ และซื้อปืนปลอมในห้างราคา 20 บาท สาเหตุที่ต่อยผู้เสียหายผู้หญิงก็เพราะโวยวายเสียงดัง และต่อสู้ขัดขืน ซึ่งที่ทำลงไปก็เพราะไม่มีเงิน ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน ประสานสถานทูตเกาหลีให้ร่วมตรวจสอบ และประสาน สตม.เพื่อเช็คประวัติการเข้าเมือง อาจเป็นแก๊งอาชญากรข้ามชาติ

 +++เรื่องคดีอาชญากรรม หลังจากที่เมื่อวานนี้  พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี จเรตำรวจแห่งชาติ รรท.ผบช.สตม. จับกุม นายอเล็กซานเดอร์ มาตูซอฟ สัญชาติรัสเซีย หัวหน้าแก๊ง "เชลโคโว" มาเฟียชาวรัสเซีย  สมญานาม จอมโจรทะเลทราย  ซึ่งหลบหนีคดีฆาตกรรม 4 ศพ และมีส่วนพัวพันคดีอุ้มฆ่าและลักพาตัวกว่า 60 ราย ตามหมายจับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล พล.ต.อ.วุฒิ เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุนายมาตูซอฟ ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามากบดานในเมืองไทย เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2552 ก่อนจะออกไปประเทศกัมพูชา แล้วย้อนกลับเข้ามาโดยมาขอวีซ่านักเรียน และเข้า-ออกเมืองไทยหลายครั้ง โดยมาอาศัยอยู่ที่พัทยา จากนั้นออกจากประเทศไทยไปประเทศเวียดนาม เมื่อปี 2556 แล้วย้อนกลับมาเมื่องไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2556 โดยการเปลี่ยนชื่อ และใช้หนังสือเดินทาง ประเทศอาร์เมเนีย เข้ามาที่ประเทศ ไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และมายื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ ตม.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2557 โดยยื่นขอวีซ่าประเภทใช้ชีวิตบั้นปลายก่อนถูกจับได้ในที่สุด เบื้องต้นทาง สตม.ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและดำเนินการผลักดัน-ส่งกลับไปดำเนินคดียังประเทศรัสเซียต่อไป

+++ปัญหาแรงงานต่างต้าว ก่อเหตุในประเทศไทย กรณีชายขนถังพลาสติกใส่ท้ายรถแท็กซี่ว่าจ้างไปลงแถวแสมดำ ถนนพระราม 2 จากนั้นลงจากรถหายไป เมื่อคนขับแท็กซี่เปิดดูท้ายรถ กลับพบว่ามีศพผู้ชายยัดในถังพลาสติกดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นเพื่อนชาวพม่า ซึ่งยอมรับว่าลงมือเนื่องจากแค้นผู้ตายโกงเงินทำบัตรแรงงานต่างด้าว ผู้ต้องหาคือ นายชิต ซานเมือง หรือเหมา อายุ 36 ปี และนายตาจี (ไม่มีนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวพม่า ร่วมกันทำร้ายผู้ตายชื่อ นายตั้น นัยบุค สัญชาติพม่า อายุ 37 ปี เนื่องจากนายตั้นยักยอกเงินของเพื่อนทั้ง 2 คน ที่มาขายแรงงานในสมุทรสาครไปจำนวน 1.7 หมื่นบาท หลังจากรับจ้างเพื่อนทำบัตรให้ต่างด้าวด้วยกัน แต่ล่วงเลยมานานแล้วจึงทวงถาม แต่ปรากฏว่าไม่ได้คืน ทำให้ทั้งสองโกรธแค้น จึงใช้ท่อนเหล็กรุมตีและฆ่าปาดคอนายตั้น จากนั้นพากัน หลบหนี