สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคกลางตอนบน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ ประกอบกับ มีปริมาณน้ำจากฝนตกสะสม ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และน้ำล้นตลิ่ง 13 จังหวัด รวม 38 อำเภอ 198 ตำบล 1,011 หมู่บ้าน แบ่งเป็น ภาคกลาง 8 จังหวัด 23 อำเภอ 154 ตำบล 800 หมู่บ้าน และในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี และอ.เมือง
ส่วนจ.อ่างทอง ประชาชนได้รับผลกระทบ 138 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,139 ไร่ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 10 -30 ซม.
นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ป่าโมก อ.เมือง อ.วิเศษชัยชาญ อ.แสวงหา และอ.โพธิ์ทอง ทำให้ประชาชน ได้รับผลกระทบ 725 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,644 ไร่ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 60 ซม.
จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางไทร และอ.บางปะอิน รวม 76 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,630 ครัวเรือน ทั้งนี้ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 80 - 100 ซม.
ปภ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว พร้อมประสานการระบายน้ำกับหน่วยชลประทานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจ เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังไปยังพื้นที่รองรับน้ำ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ประชาชน รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบน อำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนย้ายสิ่งของแก่ประชาชน
รีไรท์ :อรพรรณ สวัสดีผล