นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการขอใช้ประโยชน์ข้อมูลเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยมี นายพิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายสุจิต จงประเสริฐ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมที่ดิน นางอุไรวรรณ สถานานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงาน ป.ป.ส.นายชาลี ชื่นอุไทย ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศกรมที่ดิน ร่วมเป็นพยานและนายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ กรมที่ดิน ร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง เพื่อให้การดำเนินการด้านการตรวจสอบ ยึด อายัดทรัพย์สิน เกิดความคล่องตัว และป้องกันการยักย้ายทรัพย์สิน รวมถึงการถ่ายโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริตของนักค้ายาเสพติด ตลอดจนการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อสืบสวนขยายผลการจับกุมคดียาเสพติด ณ ห้องโถง อาคาร 2 ชั้น 1 สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ และเป็นหน่วยงานหลักในด้านการตรวจสอบ ยึด อายัดทรัพย์สิน ที่ได้มาเนื่องจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ซึ่งการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องทราบข้อมูลการมีอยู่ หรือได้มา ซึ่งทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่กรมที่ดินเป็นเจ้าของข้อมูลอย่างรวดเร็ว คล่องตัว และมีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการสืบสวนขยายผลการจับกุมคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ใช้วิธีการส่งข้อมูลในรูปแบบเอกสารคำขอข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อขอใช้ประโยชน์ข้อมูลดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานมีความสะดวก รวดเร็ว สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ กรมที่ดิน จึงได้หารือถึงแนวทางด้านเทคนิคการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในลักษณะของเว็บเซอร์วิส (Web Service) ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาข่าวสารข้อมูลของกรมที่ดิน ให้สำนักงาน ป.ป.ส. สามารถเชื่อมโยงใช้งานเรียบร้อยแล้วจึงเป็นที่มาของการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการขอใช้ประโยชน์ข้อมูลเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ ระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส. กับกรมที่ดิน
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการใช้ประโยชน์ข้อมูลเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์ และสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ในวันนี้ ซึ่งกรมที่ดินและสำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงฯ โดยมีวัตถุประสงค์ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เชื่อมโยงระบบ คอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำไปใช้ในภารกิจการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะสามารถสืบค้นข้อมูลต่างๆ ได้แก่ หมายเลขบัตรประชาชน ชื่อ-นามสกุล ของผู้ที่ต้องการตรวจสอบ เลขที่หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน พิกัดของที่ดินได้จากข้อมูลของกรมที่ดินผ่านการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 73 แห่ง เช่น สำนักงานที่ดินในกรุงเทพมหานคร จำนวน 17 แห่ง สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท เชียงราย เชียงใหม่ ชลบุรี นครนายก นคราชสีมา นครปฐม นนทบุรี เป็นต้น
ด้านเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ส. ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมที่ดิน ที่ได้รวบรวมจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อนำไปใช้ในภารกิจการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ส.ในการติดตาม ยึด อายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติด ตลอดจนการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อสืบสวนขยายผลการจับกุมโดยทุกครั้งที่มีการจับกุมนักค้ายาเสพติดหรือผู้ร่วมขบวนการ สำนักงาน ป.ป.ส. จะอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมด ที่นักค้ายาเสพติดนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือนำไปเปลี่ยนในรูปแบบต่างๆ เข้าสู่กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อใช้ประโยชน์และสนับสนุนภารกิจในการปราบปรามยาเสพติดซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมที่ดินเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการให้ข้อมูลและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับทรัพย์สินประเภทที่ดินของผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตลอดจนการทำนิติกรรมต่างๆทั้งการอายัดที่ดิน การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในกรณีที่ศาลสั่งริบทรัพย์สินให้ตกเป็นของกองทุน โดยตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 ถึง 27 กันยายน 2559 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ไปแล้ว 2,057 ราย ยึดอายัดทรัพย์ภาพรวม กว่า 1,444,358,945 บาท
นอกจากนั้น ยังได้รับความอนุเคราะห์จากกรมที่ดินส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินประจำภาคต่างๆ ซึ่งผู้แทนดังกล่าวได้ให้คำปรึกษา แนะนำ กลั่นกรองข้อเท็จจริงต่างๆ ทำให้คดีตรวจสอบทรัพย์สินเป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง และมีคุณภาพ ผมต้องขอขอบคุณ กรมที่ดิน ที่ให้ความอนุเคราะห์สำนักงาน ป.ป.ส. ในการเชื่อมโยงใช้ประโยชน์จากข้อมูล การตรวจสอบเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส.