+++สถานการณ์น้ำ นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้น ในช่วงนี้จึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50-70 เซนติเมตร และยังคงต้องเฝ้าระวังหากมีฝนตกลงเพิ่มเติม
+++ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง หลายจังหวัดเริ่มประสบปัญหาน้ำท่วม เริ่มที่ จ.ชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการระบายน้ำ อยู่ที่ 1,906 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 16.70 เมตร (รทก.) และมีระดับน้ำท้ายเขื่อน อยู่ที่ 14.61 เมตร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผล ให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน 50-70 เซนติเมตร
+++นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในพื้นที่น้ำท่วมทางจังหวัดมีเงินสำรองจ่ายกรณีเกิดภัยพิบัติ 50 ล้านบาท โดยได้ประกาศพื้นที่เขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเหตุอุทกภัยอย่างเป็นทางการแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอเสนา รวม 6 ตำบล ได้ ต.บ้านกระทุ่ม หัวเวียง รางจระเข้ บ้านแพน บ้านโพธิ์ และสามกอ เฉพาะหมู่บ้านติดแม่น้ำรวม 46 หมู่บ้าน ส่วนอำเภออื่น ๆ ที่ถูกน้ำท่วม เช่น อ.บางบาล จะเร่งประกาศเขตภัยพิบัติอย่างเป็นทางการต่อไปเพื่อนำงบประมาณระดับจังหวัดลงไปช่วยเหลือ
+++นายไมตรี ปิตินานนท์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มนำเครื่องจักรเข้าปรับพื้นที่คันกั้นน้ำบ้านกรด อ.บางปะอิน เพื่อเร่งซ่อมคันกันน้ำแบบเร่งด่วน ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน รัฐบาลและกรมชลประทาน ได้ให้งบประมาณฉุกเฉิน จำนวนกว่า 7 ล้าน รีบมาเร่งดำเนินการซ่อมคันกั้นน้ำ ที่พังชำรุดหลายแห่ง เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมในเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจ ย่านถนนโรจนะและถนนสายเอเชีย
+++ด้านนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ระดับน้ำในคลองสายหลักหลายแห่งอยู่ในภาวะวิกฤต น้ำใกล้ล้นตลิ่ง เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง เช่น คลองเปรมประชากร ช่วงพื้นที่เขตหลักสี่ ดอนเมือง คลองแสนแสบช่วงพื้นที่เขตหนองจอก เขตคลองสามวา กทม.เร่งพร่องน้ำเพื่อเตรียมรับน้ำฝน ในคลองเปรมฯเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณอุโมงค์ระบายน้ำช่วงสะพานสูง บางซื่อ 8 เครื่อง อัตราสูบ 34 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที สถานีสูบน้ำบางซื่อ 17 เครื่อง อัตราสูบ 51 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งเสริมเรือผลักดันน้ำตามจุดต่างๆ 22 ลำ ช่วยเร่งลดระดับน้ำในคลอง ช่วงพื้นที่หลักสี่ ดอนเมือง ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น
+++ส่วนในคลองแสนแสบเดินเครื่องสูบน้ำอุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้า พร้อมควบคุมการเปิดประตูระบายน้ำบางชัน ประตูระบายน้ำมีนบุรี คลองประเวศบุรีรมย์ เดินเครื่องสูบน้ำในคลองพระโขนง 51 เครื่อง อัตราสูบ 173 ลบ.ม./วินาที พร้อมควบคุมประตูระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำลาดกระบัง เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองประเวศ คลองบางนา เดินหน้าเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำบางนา 7 เครื่อง อัตราสูบ 21 ลบ.ม./วินาที พร้อมเดินเรือผลักดันน้ำตามจุดที่ติดตั้ง 8 ลำ เพื่อช่วยเร่งลดระดับน้ำในคลองบางนาและคลองลาดพร้าว เดินเครื่องสูบน้ำอุโมงค์พระราม 9 พร้อมเดินเรือผลักดันน้ำตามจุดที่ติดตั้ง 17 ลำเพื่อช่วยเร่งระบายน้ำลงอุโมงค์พระราม 9
+++คดีอาชญากรรม คนร้ายบุกเข้ามาในห้องย่านสวนหลวง กทม. ซึ่งเป็นห้องของผู้เสียหายอายุ 18 ปี ผู้ช่วยพยาบาล ก่อนลงมือข่มขืนแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายธนพล นิลพัตร์ อายุ 29 ปี ชาวกรุงเทพฯ ได้เข้าพักอาศัยที่โรงแรมบารอสซา ย่านถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตำรวจสืบสวนบช.น.จึงเดินทางมาเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบว่าคนร้ายเดินออกมาเพื่อมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าโรงแรม เมื่อคนร้ายเห็นตำรวจจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้อง ก่อนมีการยิงปะทะกัน ต่อมา พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ จนช่วงค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ระเบิดควัน 6 ลูก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษอรินทราชได้ใช้จังหวะที่นายธนพลเผลอ จู่โจมจับกุมได้อย่างรวดเร็ว จากการสอบปากคำเบื้องต้นถึงสาเหตุที่ก่อเหตุข่มขืนผู้ช่วยพยาบาล คนร้ายให้การทั้งอาการมึนเมาว่าครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน เพียงแค่ต้องการเข้าไปลักทรัพย์ แต่ขณะลักทรัพย์ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจึงฉวยโอกาสข่มขืนแล้วหลบหนีไป และตั้งใจจะถ่ายภาพผู้เสียหายผ่านทางแอพพลิเคชั่นบีโก้ไลพ์แต่ตื่นก่อน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจำคุกมาถึง 5 ครั้ง ในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติ มีมติให้ กรธ.ไปปรับแก้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติ กรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้ตามบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอ ปรับแก้ให้ สมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อยกเว้นการใช้บัญชีรายชื่อได้ ว่า เราก็ต้องปรับแก้ตาม รวมทั้งเขียนให้ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับกำหนดเวลาและวัน เริ่มนับเวลาตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่งและวรรคสอง คือ ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ กรธ.คงต้องอ่านและตีความกันอีก ซึ่งภายใน 15 วันต้องมีความชัดเจน ทั้งนี้ ภายหลัง 15 วัน เมื่อ กรธ.ปรับแก้แล้วเสร็จตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยซ้ำอีก สามารถส่งนายกรัฐมนตรีได้ทันที
+++ช่วงบ่ายนี้ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยนายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง และ นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง เข้าพบกรธ. ประเด็นการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ มีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ เป็นการพิจารณานัดแรกเพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กรณีเสียบบัตรแทนกัน และนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตประธานวิปรัฐบาล และอดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กรณีสลับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. ในการประชุมวันนี้เพื่อกำหนดวันแถลงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้ง การพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา ขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช.ว่าจะอนุญาตให้เพิ่มพยานหลักฐานหรือไม่
+++ การปราบทุจริต พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) กล่าวถึงกรณีมติครม. มอบหมายให้ศอตช.เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานปราบปรามทุจริตทั้งหมด ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระดับนโยบาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติและเอกชนที่เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าวในส่วนความเสียหายอีกร้อยละ 80 หรือวงเงิน 1.42 แสนล้านบาทว่า ในส่วน ศอตช.ยังไม่กำหนดระยะเวลาการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ต้องไปศึกษารายละเอียดก่อน จะให้เลขานุการ ศอตช.รวบรวมหน่วยงานดูแลเรื่องข้าวทั้งระบบ เพื่อจะทยอยเรียกมา เพราะเป็นขั้นตอนการหาเกี่ยวกับผู้กระทำผิด ต้องใช้เวลาดูโครงสร้างและที่มาที่ไปว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง
+++นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะ เลขานุการ ศอตช. กล่าวว่า ป.ป.ท.ได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวกว่า 800 คดี ต้นเดือนตุลาคม จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาสั่งไต่สวนและตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้ จากนั้นจะเชิญอนุกรรมการทั้งหมดมาทำความเข้าใจร่วมกัน การทำอย่างนี้จะทำให้การตรวจสอบรวดเร็วขึ้น
+++พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เสนอให้ตรวจสอบครอบครัวของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ถึง ศอตช. สามารถร้องได้ จะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานรับผิดชอบตรวจสอบก่อน ยินดีจะทำให้สังคมเกิดความมั่นใจในระบบป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลนี้
+++ข่าวเศร้าสะเทือนวงการโรงแรมและสะท้อนเศรษฐกิจ โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ลายมือของ น.ส.ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร กรรมการผู้จัดการบริษัทโรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด แจ้งให้พนักงานทุกคนทราบว่า มีความจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนและยืนยันดูแลเรื่องค่าชดเชยตามสิทธิของพนักงาน พร้อมทั้งระบุว่า วันนี้สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมมีการแข่งขันสูง มีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมาทุกที่ของมุมถนน คณะผู้บริหารอดทนและทำงานหนัก เพื่อประคับประคองสถานการณ์ เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมมาตลอด แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขณะที่ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าได้เข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประมาณ 15 ไร่ บริเวณถ.วิทยุ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร