ที่บริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เกิดเรื่องตื่นตระหนกขึ้น เมื่อมีการตรวจพบกระเป๋าต้องสงสัย ภายในเที่ยวบินของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3438 ซึ่งจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มุ่งหน้าสนามบินดอนเมือง โดยจุดที่ตรวจพบนั้น อยู่บริเวณขั้นตอนการโหลดกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารผ่านสายพาน เพื่อขึ้นไปเก็บยังห้องใต้ท้องเครื่องบิน เนื่องจากมีกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารรายหนึ่งมีอาการสั่นผิดปกติ ทำให้เร่งแจ้งชุดเก็บกู้ระเบิดหรือ อีโอดีประจำสนามบินเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน จากการตรวจสอบ โดยนำกระเป๋าต้องสงสัยออกมา ทั้งหมดถึงกับเหวอ เพราะอุปกรณ์ที่ทำให้กระเป๋าสั่นนั้น แท้จริงแล้วคือ "ไวเบรเตอร์" ซึ่งเป็นอุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศให้กับเพศหญิง ที่ถูกเปิดให้สั่นอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบปิดเครื่องทันทีและจัดเก็บลงในกระเป๋าตามเดิม ก่อนจะส่งสัญญาณให้ขึ้นบินได้ตามปกติ แม้จะทำให้ล่าช้าไป 10 นาที
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก เพจ บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน ได้โพสต์ข้อความ ดังนี้ Security AirAsia แจ้งกระเป๋าต้องสงสัย(กระเป๋ามีลักษณะสั่น ตลอดเวลา) ขณะนำขึ้นสายพานลำเลียงกระเป๋า บริเวณหลุมจอดอากาศยานหมายเลข 4 ทาง EOD เข้าตรวจสอบเป็นอุปกรณ์สั่น(คาดว่าจะทำงานเองหลังจากสัมภาระในกระเป๋าไปเบียดโดนสวิตช์ปิด-เปิด) เหตุการณ์ปกติ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของพนักงาน ความช่างสังเกต และมีการติดต่อประสานงานตามระเบียบขั้นตอนปฎิบัติอย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องตลกครับ เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามหรือละเลยได้ ต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่มา ครั้งนี้โชคดีไม่ใช่วัตถุอันตรายใด และขอชื่นชมผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ ส่วนอุปกรณ์ที่จะโหลดใต้เครื่องต่างๆ ทางที่ดีควรถอดแบตเตอร์รี่ ออกจากอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น กล้อง เครื่องเกมส์ หรือโทรศัพท์ note book อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการลัดวงจรครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม การก่อการร้ายสมัยใหม่นั้นสามารถนำ สิ่งของรอบๆตัวในชีวิตประจำวันของเรามาประกอบระเบิด หรือวัตถุอันตรายได้ และนี่คือเหตุผลที่ห้ามนำของเหลวมากกว่า 100 mil. ผ่านจุด X-Ray หรือแม้กระทั่ง วัตถุระเบิดบางแบบ อาจจะไม่ใช่แค่ตั้งเวลาเหมือนในหนังที่เราเคยดูในสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว มีทั้งใช้ความดันที่เปลี่ยนไปของบรรยากาศ ใช้ความชื้น ใช้แรงสั่นสะเทือนก็เป็นตัวตั้งการจุดระเบิดได้
CR:เฟซบุ๊ก เพจ บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน