ปลัดมท.สั่งด่วนพร้อมรับมือน้ำ/เขื่อนป่าสักเพิ่มการระบายน้ำ/เอเชียนา แอร์ไลน์ บินวนกลับสหรัฐฯพบกลุ่มควัน

28 กันยายน 2559, 12:45น.


+++กรมชลประทาน ประเมินสถานการณ์น้ำที่เกิดจากปริมาณฝนตกตามที่คาดการณ์สภาวะฝนของกรมอุตุนิยมวิทยาที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ และแจ้งให้จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลพบุรี และจ.สุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก รวมถึงนอกคันกั้นน้ำเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง



+++ฝนที่จะตกลงมาในช่วงต่อจากนี้ คาดว่า จะทำให้สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสูงสุดประมาณ 2,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะทำให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง มีปริมาณน้ำสูงสุดประมาณ 400 ลูกบาศก์ต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลสู่เขื่อนเจ้าพระยารวมประมาณ 2,555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 6 ตุลาคม อาจส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50-70 เซนติเมตร แต่คงต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกลงมาเพิ่มเติม อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 



+++ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ กรมชลประทาน คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนช่วงวันที่ 27 กันยายน – 11 ตุลาคม 2559 ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร มีโอกาสที่น้ำจะเต็มเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้วันที่ 8 ตุลาคม 2559 หากยังระบายน้ำที่ 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ต้องปรับแผนการระบายน้ำเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน



+++นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำต่อจาก จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะมาถึงเขตปทุมธานีใน 1-2 วันนี้ โดยจะดำเนินการตามจุดต่าง ๆ จุดที่ 1 สถานีสูบน้ำประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ คลองรังสิต อ.ธัญบุรี-ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 10 เครื่อง-อัตราสูบ 42 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จุดที่ 2 สถานีสูบน้ำปากคลองรังสิต ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จำนวน 8 เครื่อง อัตราสูบ 48 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งการสูบน้ำของทั้ง 2 สถานี เพื่อรับน้ำจากทางเหนือที่มาจากพระนครศรีอยุธยามาลงในทุ่งรังสิต อีกส่วนจะเป็นน้ำฝนที่มาจากท่อระบายน้ำ ถนนพหลโยธิน ถนนลำลูกกา และจะช่วยรับน้ำจากตอนเหนือของ กทม. ที่จะระบายผ่านคลองเปรมประชากรลงคลองรังสิต



+++นายสุรชัย กล่าวว่า ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบในครั้งนี้บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน คือ อ.สามโคก กับ อ.เมือง และขออย่าตื่นตระหนกในสถานการณ์ ยืนยันว่าจังหวัดสามารถรับมือได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางทางน้ำ และลอกท่อระบายน้ำตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว 



+++นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกจังหวัด เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ เนื่องจากมีจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมได้หารือมายังกระทรวงมหาดไทย กรณี การปิด เปิดประตูระบายน้ำ หรือการใช้เครื่องผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมว่า จะสามารถผลักดันน้ำเข้าพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรบางส่วนได้หรือไม่ เพื่อเป็นการรักษาพื้นที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงแจ้งให้จังหวัดดำเนินการ ให้จังหวัดประสานงานกับหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ และหน่วยงานตัวแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำจังหวัด ให้นายอำเภอแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและส่วนราชการต่างๆในพื้นที่ เป็นผู้สำรวจและให้ข้อมูลกับหน่วยงานข้างต้น เพื่อประกอบการพิจารณาว่า จะใช้พื้นที่ใดเป็นที่รับน้ำ ระบายน้ำไปกักเก็บไว้  ขณะที่ สร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง เมื่อมีการตกลงแล้วว่าจะผันน้ำหรือผลักดันน้ำเข้าพื้นที่ใด ขอให้จังหวัด จัดตั้งทีมบูรณาการประกอบด้วยส่วนราชการต่างๆ โดยมี ฝ่ายปกครอง หรือ ปภ. เป็นฝ่ายเลขานุการ ร่วมกันออกไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่ยินยอมให้ใช้พื้นที่กักเก็บน้ำว่าจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการอย่างไร  หลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกรต้องเป็นไปตามระเบียบและวิธีการเยียวยา 



+++ตอนบ่ายนี้ ติดตามผลวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ถูกต้องครบถ้วนตามคำถามพ่วงที่ผ่านประชามติ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หรือไม่ โดยมีการนัดประชุมเพื่อแถลงความเห็นด้วยวาจาและลงมติ ประเด็นสำคัญในการวินิจฉัย คือ จะเป็นการชี้ว่า ส.ว.มีอำนาจเพียงใดในการเลือกนายกฯ โดยตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ กรธ. ให้ ส.ว.มีเพียงอำนาจในการเลือกนายกฯเท่านั้น แต่ก็มีความเห็นจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ซึ่งเป็นผู้ตั้งคำถามพ่วง ที่เห็นว่า ส.ว.ควรมีอำนาจในการ เสนอชื่อ ผู้ที่จะเป็นนายกฯด้วย



+++อดีตประธานาธิบดีชิมอน เปเรส แห่งอิสราเอลถึงแก่อสัญกรรม ขณะมีอายุ 93 ปี หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชีบา เมดิคัล เซ็นเตอร์ จากนั้นก็มีอาการดีขึ้น แล้วทรุดลงอย่างรวดเร็วเมื่อวาน นายเปเรสเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับสูงของอิสราเอล จากการที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และประธานาธิบดีอีก 1 สมัย เคยร่วมคว้ารางวัลโนเบล สาขาสันติภาพร่วมกับนายยัตเซอร์ อาราฟัต ผู้นำปาเลสไตน์เมื่อปี2537 จากความพยายามสร้างสันติภาพตะวันออกกลาง และแม้จะพ้นจากอำนาจก็ยังคงทำงานเพื่อสร้างความร่วมมือกับปาเลสไตน์



+++โฆษกท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิสในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ เที่ยวบินมุ่งหน้าไปยังเกาหลีใต้ ต้องบินวกกลับมาลงจอดที่สนามบินในนครลอสแองเจลิสอีกครั้ง หลังเกิดกลุ่มควันขึ้นบริเวณส่วนเก็บสัมภาระ เว็บไซต์ไฟลต์ อแวร์ดอทคอม ระบุว่า สายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 201 เดินทางกลับถึงนครลอสแองเจลิสเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเวลา 19.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 09.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย หลังทำการบินเป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง โฆษกสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ กล่าวว่า นักบินของเที่ยวบินดังกล่าวตัดสินใจบังคับเครื่องบินกลับมายังจุดต้นทาง เพื่อความปลอดภัย หลังมีสัญญาณแจ้งเกิดกลุ่มควันขึ้นบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระบนเครื่อง



นางแนนซี แคสเซิลส์ โฆษกหญิงประจำท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิส กล่าวว่า เที่ยวบินของเอเชียนา แอร์ไลน์ ที่ประสบเหตุ เดิมมีกำหนดการเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนของเกาหลีใต้ โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง รวม 353 คน



แฟ้มภาพ



รีไรท์:อรพรรณ สวัสดีผล



 

ข่าวทั้งหมด

X