ก.การต่างประเทศเรียกร้องอียูทบทวนมาตรการลงโทษไทยเพราะส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย

24 มิถุนายน 2557, 11:49น.


หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีมติให้ทบทวนความสัมพันธ์กับไทยและเรียกร้องให้ไทยจัดการเลือกตั้ง เพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด


นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัด ก.ต่างประเทศได้เชิญนายเฆซูส มิเกล ซานส์ เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทยเข้าหารือ โดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ท่าทีของอียู ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย แต่ได้แสดงความผิดหวังกับมาตรการต่างๆของอียูผ่านเอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพราะเป็นท่าทีที่ไม่ได้คำนึงถึงพัฒนาการล่าสุดของการเมืองไทยที่กำลังกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวของอียู โดยไม่มีการหารือกับประเทศไทยรวมถึงไม่ควรด่วนสรุปแผนดำเนินงาน 3 ขั้นตอนของ คสช.ที่กำลังนำไปสู่การปฏิบัติและอยู่ระหว่างการคลี่คลายสถานการณ์ ส่วนการระงับการเยือนไทยนั้นเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของอียูกับไทย ไม่ใช่ผลประโยชน์ของไทยเพียงฝ่ายเดียว จึงขอให้อียูทบทวนมาตรการต่างๆ และควรคำนึงถึงผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน


 


ทั้งนี้เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทยยืนยันว่ามาตรการที่ออกมาไม่ใช่การคว่ำบาตรประเทศไทย เป็นเพียงการจำกัดสิทธิ์บางส่วน แต่ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวยังดำเนินการได้ตามปกติและมาตรการที่ออกมาก็ไม่มีเรื่องเอฟทีเอ เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงคาดหวังว่าไทยจะกลับไปเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว 


 


ส่วนข้อกังวลผลกระทบด้านการส่งออกอาหารทะเลนั้น ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าได้มอบหมายให้ทูตประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกับทูตพาณิชย์ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองในไทย ซึ่งขณะนี้ฝรั่งเศสและอังกฤษมีความเข้าใจมากขึ้น


 


อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ตนจะเดินทางไปประเทศกัมพูชาเพื่อร่วมประชุมระดับรัฐมนตรี จากนั้นจะเดินทางเข้าร่วมประชุมกับองค์การสหประชาชาติและเดินทางเยือนประเทศจีนเป็นประเทศต่อไป ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงด้วย


 


..ผสข.วินัยธร
ข่าวทั้งหมด

X