สน.หลักสองรวบแก๊งค์อ้วนผอมกระชากกระเป๋าสารภาพทำมานาน 10 ปี

พ.ต.อ.ภาณุเดช   สุขวงศ์   ผกก.สน.หลักสอง   กล่าวว่ากรณีจับคนร้ายอ้วน-ผอม ได้พร้อมของกลาง และผู้ต้องหาชื่อนายอรรถพร หรือตั้ม ยุติโยธิน อายุ 24 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง และกระเป๋าสตางค์ รวมแล้วกว่า 73 ใบ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ซึ่งภายหลังถูกพ่นสีเปลี่ยนเป็นสีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จากการสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในคดีเสพยาเสพติด เบื้องต้นมีเจ้าทุกข์ประมาณ10คน เดินทางไปที่ สน.หลักสอง ชี้ตัวผู้ต้องหาและของกลาง (เมื่อวานนี้)โดยเมื่อวานนี้ ช่วงเที่ยง ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกตรวจพื้นที่ พบผู้ต้องหาขี่ขับจยย.ผ่านมาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงแอบติดตามไปจนถึงบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ หลังหมู่เศรษฐกิจ พบนายตั้มและ และผู้ต้องหาอีก 3 คนกำลังนั่งสูบกัญชา จึงนำตัวมาที่สน.เพื่อดำเนินคดี โดยนายตั้ม บอกว่าเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง ตร.จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ของนายตั้ม ในซอยเพชรเกษม 69พบของกลางเป็นกระเป๋าสะพายที่ได้จากการวิ่งราวทรัพย์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนกว่า 73 ใบ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อน ชื่อแก๊งอ้วนผอม ตระเวนก่อเหตุในช่วงเช้ามืดซึ่งเป็นช่วงทีคนออกจากบ้านไปทำงาน คนไม่พลุกพล่าน  โดยเน้นเหยื่อที่เป็นผู้หญิงและมีการทำร้ายเหยื่อด้วย โดยเลือกเฉพาะผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงที่เดินคนเดียว ก่อนจะขับรถไปเฉียวชนแล้วกระชากกระเป๋า หากได้กระเป๋าที่มีราคาแพงจะนำไปขายรวมทั้งทรัพย์สินภายในกระเป๋า ส่วนใบไหนไม่มีราคาก็จะนำไปเก็บไว้ที่บ้าน หรือโยนทิ้งข้างทาง ก่อนจะนำเงินไปหาซื้อกัญชามาเสพ และเลี้ยงดูลูกอายุเพียง 3 ขวบ โดยยอมรับก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทำทุกวันเมื่อมีโอกาส ทำมาแล้วกว่า 10 ปี เคยถูกต้องโทษจำคุกมาแล้วหลายครั้ง แต่ในคดียาเสพติดทั้งสิ้นและตระเวนก่อเหตุในหลายพท.แถวฝั่งธนบุรี  ล่าสุดก่อเหตุที่หน้าวัดมะพร้าวเตี้ย ในพื้นที่ สน.บางเสาธง จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมได้มาพร้อมกัน คือนายพงษ์ศิริ หรือนาว แสงสว่าง อายุ 23 ปี ที่ผู้ต้องหาชี้ตัวว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง  ฝากถึงผู้เสียหายสามารถไปดูของกลางและชี้ตัวได้ที่สน.หลักสอง