นายกฯสั่งสอบตุรกีไม่รับรอง4ร.ร.ไทย/ย้ายนักบินฮ.ฮิวอี้ไปรักษาที่รพ.สงขลานครินทร์/กมธ..นัด20ก.ย.หารือกม.ลูก

16 กันยายน 2559, 19:41น.


+++พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผบ.ฉก.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.อ.พิสิษฐ์ ชาญเลขา ผบ.ฉก.ทพ.46  พ.อ.เอกสิทธิ์ บุญญารักษ์ เสนาธิการหน่วยบินทหารบกอโณทัย เดินทางเยี่ยมอาการบาดเจ็บเจ้าหน้าที่นักบินและช่างเครื่อง ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ แบบฮิวอี้ ไถลกระแทกพื้นดินนอกลานจอดในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย  ประกอบด้วย พ.ต.วิรัตน์ สุขสำราญ นักบินที่ 1 ร.ท.สถาพร ชัยเกตุ นักบินที่ 2 จ.ส.อ.อุทัย คมปัก ช่างประจำอากาศยาน และ จ.ส.อ.ธานิน มหามณี ช่างเครื่อง ถูกส่งมารักษาเบื้องต้นที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ หลังจากนี้จะมีการส่งไปรักษาต่อที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.เอกรัตน์ เปิดเผยว่า เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถคุมเครื่องบินได้ เนื่องจากระบบไฮโดรลิกแตก ทำให้เครื่องมีอาการหมุนรอบทิศก่อนที่จะจอดสนิท และจากนั้นได้ไถลตกขอบลานสนามบินกระแทกกับพื้น จนเกิดไฟไหม้ขึ้น และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลำนี้  บินจากค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 07.20 น. มาถึงลานจอด ในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 08.20 น.เพื่อมารับคณะเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส และเมื่อเกิดเหตุขึ้นจึงต้องยกเลิกภารกิจในวันนี้



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จ. ภูเก็ต พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพแทบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาให้ภูเก็ตเป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ตามนโยบายของรัฐบาล จะยิ่งช่วยส่งเสริมและดึงดูดให้เกิดการเข้ามาลงทุนในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ภูเก็ตยังเป็นจังหวัดที่รัฐบาลเลือกให้เป็น 1 ใน 2 ของจังหวัดที่เป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ด้านดิจิทัล คู่กับ จ.เชียงใหม่ นายกรัฐมนตรี ฝากให้ชาวภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยกันดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ชายหาด และท้องทะเล ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญของภูเก็ตให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะร่วมประชุมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) กลุ่ม 5 จังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง และตรัง โดยเป็นการประชุมปิด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟัง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การประชุมครั้งนี้น่าจะมีการหยิบยกปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามัน อาทิ ปัญหานอมินี ปัญหาความปลอดภัยทางทะเล ไปจนถึงปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นทึ่ป่าและอุทยานฯ มาหารือร่วมกันด้วย



+++ตามที่ปรากฏกรณีเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความประกาศจะไม่รับรองประกาศนียบัตรโรงเรียน 4 แห่งในประเทศไทย โดยระบุว่าโรงเรียนดังกล่าวมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายนายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน  นายกฯ สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบแล้ว ปัญหาในประเทศควรแก้กันเองภายในประเทศ ไม่ควรดึงต่างประเทศมาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น



+++ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าโรงเรียนทั้ง 4 แห่ง เป็นสถาบันการศึกษาที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บุคคลดังกล่าว ไม่ได้มีตำแหน่งหรือชื่อเป็นผู้บริหาร เจ้าของ หรือองค์ประกอบในคณะกรรมการบริหารโรงเรียน  นายเสข กล่าวว่า การออกประกาศไม่รับรองวุฒิบัตรดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับนักเรียนในสังกัดโรงเรียนดังกล่าวที่ทำการศึกษาอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าประกาศดังกล่าวจะมีผลกระทบกับการรับรองวุฒิการศึกษาในประเทศอื่นๆ ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ดี กระทรวงได้ประสานงานอย่างต่อเนื่องกับสถานเอกอัครราชทูตตุรกีเพื่อขอรับหลักฐานทางกฎหมายและหลักฐานที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมจากทางการตุรกี หน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุป พร้อมประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ไทยกับตุรกียังคงดีเหมือนเดิม และเคยแจ้งว่า ถ้าทางตุรกีมีหลักฐานใด ขอให้ส่งมายังไทย เพื่อร่วมมือกันตรวจสอบ แต่ขอยืนยันว่า ตุรกียังไม่เคยส่งข้อมูลมา



+++ความคืบหน้าการเรียกร้องความเสียหายกรณีข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)  4 สัญญา จำนวน  6.2 ล้านตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท จากผู้เกี่ยวข้องทั้งนักการเมืองและข้าราชการ รวม 6ราย  นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือตอบกลับจากนายกรัฐมนตรีให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามคำสั่งทางปกครองในการเรียกค่าเสียหาย  กรณีมอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในคำสั่งเรียกร้องค่าเสียหาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องซับซ้อนต้องใช้เวลาในการทำงานให้รอบคอบ ไม่ตั้งใจที่จะกลั่นแกล้งและลงโทษใคร ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อผ้า เรื่องนี้ได้หารือนายกรัฐมนตรีและเป็นการกระทำที่ดำเนินการตามกระบวนการ ทั้งนี้ หากมีการลงนามในคำสั่งเรียกค่าเสียหายแล้ว  ขั้นตอนต่อไปจะต้องแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 รายรับทราบและภายใน 30 วัน หากผู้ถูกกล่าวหายังเพิกเฉยหรือไม่มีการโต้แย้งจะส่งหนังสือแจ้งเตือนรอบที่ 2 ซึ่งมีระยะเวลา 15 วัน ต่อ จากนั้นจะส่งสรุปไปยังกรมบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ แต่ยืนยันว่าการเรียกค่าเสียหายดังกล่าวจะทันก่อนหมดอายุความเดือนกุมภาพันธ์ 2560 แน่นอน



+++ด้านน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า  ขณะนี้ในกระทรวงพาณิชย์มีทีมกฎหมายดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ  หลังจากปลัดกระทรวงพาณิชย์ลงนามฝ่ายกฎหมายจะทำหนังสือถึงนักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 รายรับทราบ หากมีข้อโต้แย้งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ต้องยื่นเรื่องไปที่ศาลปกครองและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย



+++น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า แม้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป จะเข้ารับตำแหน่ง แต่เรื่องการฟ้องร้องค่าเสียหายข้าวจีทูจีไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น หากต้องเข้าไปดูแลคงต้องเข้าไปดูในรายละเอียดในช่วงก่อนหน้านี้ และขั้นตอนของการทำงาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันและทีมงานของกรมการค้าต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว หากจะให้ต้องเป็นผู้ลงนามในคำสั่งฟ้อง ต้องมีเหตุผลและอธิบายได้ รวมถึงที่มาที่ไป การจะเซ็นอะไรต้องดูอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ใครตั้งมาและให้ลงนามก็ไม่ใช่ว่าจะต้องดำเนินการทันที เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการ ส่วนตัวเชื่อและมั่นใจว่าปลัดกระทรวงคนปัจจุบันดูแลเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นและมุ่งมั่นแก้ไขปัญหามาโดยตลอด เป็นผู้รู้เรื่องจริง  ก็ไม่น่าจะมีการบังคับให้ลงนาม



+++ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สะท้อนถึงการไร้ภาวะผู้นำ ความไม่กล้าของรัฐมนตรี ถ้าเป็นจริงตามกระแสข่าว คิดว่า นางอภิรดี อยู่เป็นรัฐมนตรีต่อไปก็ไม่สง่างาม เสียดายภาษีประชาชน



+++การพิจารณาจัดทำรายงานข้อเสนอแนะการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.  และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิกร จำนง  กรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง  สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า กมธ.การเมืองจะประชุมพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ในวันที่ 20 ก.ย. คาดว่าจะได้ข้อสรุปในส่วนของกฎหมายว่าด้วยกกต. เนื้อหาเบื้องต้น จะยึดไปตามหลักการของร่างฉบับเดิม เพราะต้องเป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ



+++นายนิกร กล่าวว่า มีเพียงประเด็นเดียวที่ยังเป็นข้อถกเถียงในที่ประชุม กมธ.การเมือง คือจะเสนอให้มีการยกเลิก กกต.จังหวัด (กกต.จว.)หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรยุบ เนื่องจาก กกต.จว. จำเป็นต้องมีผู้ทำหน้าที่ประสานงานกับ กกต.กลางในทุกจังหวัด



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต. เปิดเผยว่า กกต.จะส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้กรธ. สาระสำคัญ คือ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งได้เอง เพิ่มค่าการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เพิ่มช่องทางรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ควบคู่กันกับวิธีปกติ ผู้สมัครต้องติดป้ายตามขนาด และในพื้นที่ที่ กกต.กำหนดเท่านั้น พรรคการเมืองที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต้องดีเบตนโยบายต่อสาธารณะ ส่วนการคำนวณส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสมจะยึดตามรัฐธรรมนูญกำหนด กรณีเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือใบดำ มีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และยอมรับว่าควรจะมีบัญญัติไว้ในร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว แต่เนื่องจากกกต.เห็นว่า ยังมีความไม่ชัดเจนว่า กรธ.มีเจตนาที่จะให้หมายถึงความผิดลักษณะใดบ้าง จึงยังไม่มีการกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ในร่างพ.ร.บ. แต่จะมีข้อสังเกต และไปหารือกับ กรธ.ในวันที่ 19 ก.ย. และให้กรธ.เป็นผู้กำหนดลักษณะความผิดที่จะเข้าข่ายใบดำไว้ในกฎหมายลูกเอง 



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย บรรยากาศลงทุนค่อนข้างคึกคักและบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยในท้ายตลาดมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ หลังได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาสดใสมากขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาแกว่งตัวด้านบวกและปิดบวกไปเกือบร้อยละ 1 จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดอาจจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางสัปดาห์หน้า ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ฟื้นตัวขึ้นเกือบร้อยละ 1 ส่งผลให้ปิดตลาดที่1,479.07จุด เพิ่มขึ้น 15.68จุด มูลค่าการซื้อขาย 83,257.04ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 114.28 จุด  ปิดที่ 16,519.29 จุด

+++ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการในวันนี้เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

+++เหตุระเบิดบนเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว 35 คน แล่นระหว่างเกาะบาหลีและเกาะลอมบอกของอินโดนีเซีย ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีและออสเตรียเสียชีวิต 2 ศพและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่า วันนี้ได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางและพิสูจน์ตัวตนของผู้โดยสารเรือชาวต่างชาติทุกคน รวมทั้งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทเจ้าของเรือที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เรือบรรทุกท่องเที่ยวที่ระเบิดขึ้น ไม่ใช่การลอบวางระเบิด อาจจะเกิดจากถังแก๊สระเบิดเท่านั้น ทั้งนี้ทีมพิสูจน์หลักฐานจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานจากเรือเพิ่มเติม 



รีไรท์ :อรพรรณ สวัสดีผล



CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย 



 

ข่าวทั้งหมด

X