+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงสถานการณ์น้ำในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด ภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนว่า พายุโซนร้อนราอีจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ไม่ออกนอกบ้านในช่วงที่ฝนตกหนักหรือมีพายุ รวมทั้งเก็บข้าวของทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง พร้อมทั้งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และเตรียมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนตลอด 24 ชม. กรณีเกิดความเสียหายจากพายุที่รุนแรง และขอให้กรมชลประชาชน หน่วยงานด้านน้ำอื่น ๆ และแต่ละจังหวัดที่พายุจะพาดผ่าน ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และพื้นที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องน้ำท่วมแล้ว จะต้องวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าอย่างครบวงจรด้วย
+++ระดับน้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ประกาศแจ้งเตือนประชาชน และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาให้ติดตาม เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและให้มีความพร้อมในการรับมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนในทันทีหากมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้น สำหรับสภาพอากาศที่จังหวัดหนองคาย ยังมีเมฆปกคลุมเต็มพื้นที่ มีฝนตกปรอย ๆ เป็นระยะและมีลมกระโชกแรงเป็นครั้งคราว
+++ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตีเคลื่อนตัวเข้าใกล้ทางตอนใต้ของไต้หวันเมื่อช่วงเช้าวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุดราว 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยพายุได้เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์และวันอังคาร จากความรุนแรงระดับ 1 ขึ้นไปเป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุด
+++ซุเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตี เป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดถัดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์เมื่อปี 2556 และยังนับเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ไต้หวันตั้งแต่ปี 2502 ทั้งนี้ แม้ว่าจุดศูนย์กลางพายุจะไม่พัดกระหน่ำไต้หวันโดยตรง แต่คาดว่ากระแสลมรุนแรงและฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุจะส่งผลกระทบครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของไต้หวัน โดยพายุมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่จีน
+++การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แก้ไขให้สอดคล้องกับผลประชามติ หลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) ส่งเอกสารชี้แจงเจตนารมณ์ของคำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีเนื้อหาว่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีแรก สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) มีสิทธิ์เสนอรายชื่อและโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกเอกสารผลการประชุม ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับความเห็นและข้อมูลที่เกี่ยวข้องในประเด็นคำถามพ่วง ของสปท. สนช. รวมไว้ในสำนวน และศาลรัฐธรรมนูญ นัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยต่อวันที่ 21 กันยายน เวลา 13.30 น.
+++ช่วงบ่ายจะมีการประชุมร่วมกันของประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานองค์กรอิสระนัดแรก เพื่อพิจารณาการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 กำหนดไว้ ว่าให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต้องกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ขึ้นมาบังคับใช้สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์อิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (คณะรัฐมนตรี ,ส.ส.,ส.ว.) ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับจากวันที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต้องพ้นจากตำแหน่ง
+++สถานการณ์ค่าเงินบาท จากธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 34.97/99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับการปิดตลาดเมื่อวาน ที่ระดับ 34.88/89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาซื้อขายช่วงสาย ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 34.95/96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย เป็นผลมาจากที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทำให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง ส่งผลต่อเนื่องให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และจึงกระทบต่อค่าเงินบาทของไทยให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ของนักลงทุนที่มองเห็นความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าไปแตะที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ฯ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 แถบชุมชนในเมืองเมเดยินเมืองใหญ่อันดับสองของโคลอมเบีย ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมีศูนย์กลาง 129 กิโลเมตร ลึกลงไป 72 กิโลเมตรนับเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบกว่าปี สำนักภัยพิบัติทางธรรมชาติโคลอมเบีย แถลงว่า ไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวที่โคลอมเบียเกิดขึ้นช่วงก่อนเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น และอยู่ลึกลงไปเพียง 4 กิโลเมตร โดยสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงกรุงโบโกตา แผ่นดินไหวทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยขึ้นในช่วงที่ผู้คนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
รีไรท์ :อรพรรณ สวัสดีผล