กรณีลูกค้าของเอไอเอส เล่นเกมคุกกี้รัน และมีค่าบริการสูงผิดปกติ 2 แสนบาท นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หารือผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายในข้อเท็จจริง เบื้องต้น สำนักงาน กสทช. สั่งการไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้รีบกำหนดวงเงินในการใช้บริการ เพื่อไม่ให้ความเสียหายในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ขึ้นอีก ก่อนที่จะเรียกประชุมเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เรื่องกรณีนี้เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกัน สำนักงานฯ จะรีบทำหลักเกณฑ์เพื่อกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมพิจารณาโดยเร็ว นอกจากนั้น สำนักงาน กสทช. จะได้ประสานงานเชิญผู้เสียหายมาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการดำเนินการช่วยเหลือ และอยากให้ผู้ปกครอง ช่วยกันดูแล ลูกหลาน ให้ระมัดระวังในการเล่นเกม หรือระมัดระวังในการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับกรณีนี้
ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด เอไอเอส เครือข่ายในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ปัจจุบันการใช้บริการเกี่ยวกับ application ทางอินเตอร์เน็ต เช่น การสมัครใช้งาน หรือ การซื้อ content ผ่านทาง Google play store ซึ่งเป็นศูนย์รวม application ของแอนดรอยด์ ที่ให้บริการโดยกูเกิ้ล ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เอไอเอสจึงเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการนี้ให้กับ Google Play Store โดยหักจากบิลค่าโทรศัพท์ของเอไอเอสได้ทั้ง prepaid และ postpaid ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 แต่ลูกค้าจะต้องมีการสมัครใช้งานและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน จึงจะสามารถทำการหักค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงในการซื้อ content แต่ละครั้ง จะมีการแจ้งให้ยืนยันการซื้อ และจะมีการส่งยืนยันการซื้อดังกล่าวกลับไปที่ email ของลูกค้าเสมอเช่นกัน อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดบริการดังกล่าวไป พบว่าลูกค้าบางรายมีค่าบริการสูงผิดปกติตามที่เป็นข่าว ซึ่งบริษัทฯก็มิได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ทำการปิดบริการสำหรับระบบโพสต์เพดทันที ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม และจะดูแลลูกค้าโดยยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้บริษัทฯจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนรวมถึงเพิ่มเติมการกำหนดยอดการใช้งานสูงสุดในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตัวเอง (Credit Limit) เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต