หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และล้นพระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งตนจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อความมั่นคงของสภาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความผาสุกของพี่น้องประชาชนไทย
สำหรับการบริหารงานของกองทัพบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ได้ใช้การบริหารงานเป็นทีม โดยใช้ฝ่ายเสนาธิการ และกรมการข่าวเป็นหลัก ส่วนในบอร์ดของกองทัพบกก็จะมี 5 เสือทบ.ก็จะมีการพูดคุยกันในทุกเรื่อง พร้อมทั้งจัดลำดับงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนรับรู้เท่าเทียมกันหมด ในฐานะที่ตนมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก็จะสานงานต่อในภาพรวมไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง
ส่วนการได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ถือเป็นธรรมเนียม นายกฯได้ให้คำแนะนำในการทำงาน พร้อมทั้งให้ความสำคัญในการดูแลกำลังพล โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ ซึ่งพล.อ.ธีรชัย ได้ดำเนินการมาโดยตลอด หลังจากตนได้รับนโยบายแล้วก็จะสานงานต่อ อย่างไรก็ตามกองทัพบกมีบทบาทในการสนับสนุนงานรัฐบาล และคสช.อยู่แล้ว ซึ่งมีงานหลักอยู่หลายงาน โดยงานเร่งด่วนลำดับที่หนึ่ง คือ การดูแลความมั่นคงของรัฐบาลในทุกเรื่อง ทุกแง่ ทุกมุม ตามที่ พล.อ.ธีรชัย ได้ดำเนินการมา
สำหรับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) พลเอกเฉลิมชัย กล่าวว่า ปัญหา จชต.เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในปัจจุบันหากดูตามสถิติถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่นิยมใช้ความรุนแรง ซึ่งตนเห็นใจผู้ปฏิบัติงาน แต่ก็ต้องพยายามต่อไป เพื่อให้เหตุการณ์ยุติให้ได้ แม้ว่าตนจะเป็นทหารมาจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าความเป็นทหารรบพิเศษจะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่จชต.ดีขึ้น ซึ่งตนมีความตั้งใจ และทุ่มเท เพื่อทำงานให้กองทัพบกในช่วงระยะเวลาสุดท้ายของการรับราชการให้ดีที่สุด และอยากให้สื่อมวลชนเป็นกำลังใจให้ด้วย