ประชุมครม.โยกย้ายผู้ว่าฯ/สปท.ลงมติข้อเสนอจัดการเลือกตั้ง

13 กันยายน 2559, 07:27น.


ในวันที่ 15 กันยายนนี้ รัฐบาลมีกำหนดแถลงผลงาน 2 ปี ในวันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ก่อนที่จะมีการประชุมนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี รองประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะมาประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรม "ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี"



และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำผู้ชนะเลิศการประกวดคำขวัญการประชุม 2nd WIF และ 67th IEC เข้ารับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี พร้อมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การจัดการประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ 2 (The 2nd World Irrigation Forum) และการประชุมมนตรีฝ่ายบริหารระหว่างประเทศ ครั้งที่ 67 (The 67th Internationnal Executive Council Meeting)



ส่วนในวาระการประชุม กระทรวงมหาดไทยจะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่งบริหารระดับสูง (ซี 10) โดยจะมีการแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ขึ้นเป็นผวจ.แทนตำแหน่งที่ว่างอยู่  24 ตำแหน่ง โยกสลับ ผวจ. 3 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 3 ตำแหน่ง รวม 30 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งที่สำคัญ อาทิ นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.นครนายก เป็นผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผวจ.มหาสารคาม เป็นผวจ.ภูเก็ต นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผวจ.จันทบุรี เป็นผวจ.สระแก้ว นายอวยชัย อินทร์นาค รองผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นผวจ.สุราษฎร์ธานี นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ รองผวจ.ปัตตานี  เป็นผวจ.ปัตตานี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล รองผวจ.ปทุมธานี เป็น ผวจ.เพชรบูรณ์ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.สมุทรสงคราม นายประดิษฐ์ ยมานันท์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ที่ทำเนียบรัฐบาล



ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้งประชุมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ



ที่รัฐสภา ในช่วงเช้ามีการประชุมสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.ซึ่งจะมีการลงมติ รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สปท. เรื่องข้อเสนอการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. หลังจากที่มีการอภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในประเด็นที่ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ภายใต้การกำกับดูแลของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งนายสมพงษ์ สระกวี ประธานคณะทำงานพิจารณาร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ยืนยันว่าไม่ใช่การเสนอให้มีการเซตซีโร่พรรคการเมือง หรือให้ตั้งพรรคการเมืองใหม่  



ส่วนช่วงบ่ายมีการประชุมของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. และ คณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือวิป สนช.



โดยประเด็นการเมืองในวันนี้ จะเกี่ยวข้องกับการที่เมื่อวานนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ซึ่งระบุว่า สถานการณ์บ้านเมืองในรอบสองปีที่ผ่านมา มีความสงบเรียบร้อยเป็นลำดับ จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และให้การกระทำความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ให้อยู่ในอำนาจการ พิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม เว้นแต่การกระทำความผิดตามธรรมนูญศาลทหาร ซึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่า เป็นการผ่อนคลายบรรยากาศตามที่นานาชาติเรียกร้อง



ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ยังมีพวกที่มีความคิดสุดโต่ง ในหลากหลายอาชีพ และทำให้เกิดความสูญเสีย เกิดความไม่สงบไปทั่วภูมิภาคและทั่วโลก ดังนั้นเราต้องยึดมั่นเรื่องการรักษาความมั่นคงของประเทศ



นอกจากนี้ยังมีกรณี นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ลงนามในหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่อง การสั่งให้นายกองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.)ของจ.มหาสารคาม พ้นหน้าที่เนื่องจากกระทำการทุจริตสอบแข่งขันบุคคล เพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบลประจำปี 2557 ตามที่มีผู้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ขอให้มีการตรวจสอบ โดยขอให้ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ นายกอบต.ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม รวม 32 ราย ซึ่งทุจริตในการสอบแข่งขันจริง ทางจังหวัดมีคำสั่งให้นายกฯ อบต.พ้นจากตำแหน่งแล้วรวม 23 ราย และมีนายกฯ อบต.ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง 8 ราย และอยู่ระหว่างการรอผลสอบสวนและความเห็นของนายอำเภออีก 1 ราย โดยเป็นการกระทำทุจริตที่ปรากฏหลักฐานชัดเจน จึงให้พ้นจากปฏิบัติหน้าที่และยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ขั้นต่อไปคือการดำเนินการทางแพ่ง อาญา และวินัย



ส่วนที่นครราชสีมามีการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในโครงการขุดลอกคลองและถนน ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบความผิดปกติ ซึ่งนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบฎีกากว่า 240 โครงการพบ 33 โครงการที่เบิกจ่ายเงินไปแล้ว ในจำนวนนี้มี 11 โครงการๆ ที่เบิกจ่ายโดยไม่มีการทำงาน ทางจังหวัดจึงแจ้งความดำเนินคดีอาญา ข้อหาทุจริตกับเจ้าหน้าที่ อบจ.ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตั้งกรรมการสอบวินัย รวมถึงแจ้งความดำเนินคดีผู้รับเหมาหรือผู้รับจ้างที่ร่วมเบิกจ่ายด้วย



ส่วนที่มีเสียงชื่นชมก็คือกรณีที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามีหนังสือถึงนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติเมื่อผู้ว่าราชการลงพื้นที่ปฎิบัติราชการ โดยมีแนวทางคือ ให้จัดต้อนรับแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีรถนำ ไม่ต้องปิดถนน ไม่ต้องขึ้นป้ายต้อนรับ, ไม่ต้องตั้งเวทีตั้งเต็นท์,  ไม่ต้องมีโพเดียม, ไม่ต้องตั้งแถวรอรับ ห้ามนำนักเรียนตั้งแถวรอรับเด็ดขาด, ไม่จำเป็นต้องผูกผ้าขาวม้า แต่ถ้าจำเป็นก็ผูกได้ 1 ผืนเท่านั้น, ไม่ควรมีการแสดงต้อนรับใดๆ, การปรบมือต้อนรับไม่ควรนานเกิน 5 วินาทีและไม่ควรให้พิธีกรกล่าวเยินยอผู้ว่าราชการจังหวัด ควรกล่าวเฉพาะแนวนโยบายและความมุ่งมั่นแก้ปัญหาประชาชน, การดำเนินพิธีต่างๆขอให้กระชับใช้เวลาสั้นที่สุด แต่ขอให้พาไปพบประชาชนและดูสภาพพื้นที่ที่เป็นปัญหา และการเลี้ยงอาหารควรเป็นอาหารจานเดียวดีที่สุด



..

ข่าวทั้งหมด

X