ปภ.เตือน 44จังหวัด-กทม.พร่องน้ำรอรับฝน/เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยฉุดหุ้นร่วง/มติสปท.เสนอใช้ม.44 แก้จราจร

12 กันยายน 2559, 20:19น.


+++ตลาดหุ้นไทยวันนี้ มีความผันผวนอย่างหนักโดยมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดเล็กเนื่องจากนักลงทุนยังกังวลปัจจัยในประเทศและและกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด จะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกติดลบกันทุกตลาด  ปิดตลาดที่1,411.85จุด ลดลง 33.43จุด หรือร้อยละ 2.31 มูลค่าการซื้อขาย 53,983.22 ล้านบาท         



+++ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดวันนี้ในแดนลบ หลังเฟด ให้ความเห็นว่าจะเสนอให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ภายในเดือนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวร้อนแรงเกินไป ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 292.84 จุด ไปอยู่ที่ 16,672.92 จุด จากการเทขายของนักลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียก็ปิดตลาดในแดนลบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง และ เกาหลีใต้



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดร่วงลงอย่างหนักกว่าร้อยละ 3 จากปัจจัยดังกล่าว ร่วงลง 809.10 จุด ปิดที่ 23,290.60 จุด ทั้งนี้ นายโรเซนเกรน เตือนว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นหากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม



+++ค่าเงินบาท ปิดตลาดที่ 34.94/96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จากเปิดตลาดเช้าวันนี้ ที่ 34.84/34.86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลง นอกจากประเด็นของเฟดแล้ว นักลงทุน ยังคงมุ่งความสนใจไปยังการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่จะจัดขึ้นภายในวันที่ 20-21 ก.ย. ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรเปิดเผยในวันพรุ่งนี้  ในวันที่ 14 ก.ย. ติดตามการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารอังกฤษ ตัวเลขอัตราว่างงานของสหราชอาณาจักร ราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศนิวซีแลนด์  ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานของประเทศออสเตรเลีย ตัวเลขอัตราว่างงานของประเทศออสเตรเลีย



+++นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่น และคาดว่าพายุดังกล่าวจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทย ในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย.นี้ ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 44 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และนครนายก ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ขณะที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี และบึงกาฬ



+++สภาพอากาศ นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ระบุว่า จากการติดตามข้อมูลสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีพายุดีเปรสชั่นเคลื่อนเข้าประเทศไทย คาดจะมีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพ ช่วงวันที่ 13-14 ก.ย.นี้ สำนักการระบายน้ำ มีความจำเป็นที่จะควบคุมระดับน้ำในคลองสายหลักให้มีระดับต่ำ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสารในคลองสายหลัก เช่น  คลองแสนแสบ คลองชักพระ คลองดาวคะนอง คลองบางกอกใหญ่ คลองภาษีเจริญ โดยจะเริ่มลดระดับน้ำ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้



+++การปราบปรามธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ  นางกอบกาญจน์ วัฒนวรรงกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งการยึดและอายัดทรัพย์ เหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมมีอัตราการเติบโตขึ้นร้อยละ 12.10



+++ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสนับสนุนให้มีการจัดระเบียบและภาพลักษณ์ของทัวร์รวมถึงการท่องเที่ยวไทยและจีนให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีมาตรการจัดทำของขวัญสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยด้วย quality package จะให้ใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้



+++ด้านผู้แทนสถานทูตจีนประจำประเทศไทยและผู้แทนองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนประจำประเทศไทย (CNTA) กล่าวว่า CNTA สนับสนุนการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญที่ผิดกฎหมาย



+++นายศุภชัย  สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึง การประชุมกกต.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ว่า หากที่ประชุม กกต.พิจารณาเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ จะส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พิจารณาได้เลย กรณีที่พรรคการเมืองวิจารณ์การให้ส่งนโยบายหาเสียงให้กกต.ตรวจสอบก่อน สิ่งที่กกต.ส่งไปเป็นเพียงเบื้องต้น เพราะการพิจารณากฎหมายลูกทั้งหมดเป็นหน้าที่ของกรธ.



+++การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สปท.เรื่อง การแก้ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ  กล่าวว่า ปัญหาการจราจรทำให้สูญเสียน้ำมันเชื้อเพลง วันละ 79 ล้านบาท หรือปีละ 33,500 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่ามหาศาล รวมถึงสร้างปัญหาด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม  คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาออกเป็นคำสั่งตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 เพื่อกำหนดมาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ปัญหาจราจร และเป็นรูปธรรม มีสาระสำคัญ ให้จัดตั้งคณะกรรมการผู้ปฏิบัติงานการแก้ปัญหาจราจร (คปจ.) มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง ให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางเพื่อแก้ปัญหาจราจร (ศปก.จร.) ยกระดับกองจัดระบบจราจรทางบก โดยการจัดบุคลากรให้เพียงพอสอดคล้องกับภาระหน้าที่ และให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจร ทั้งนี้เชื่อว่าหากนำข้อเสนอของอนุกมธ.ฯ ไปปฏิบัติจะแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน ที่ประชุม มีมติส่งรายงานฉบับนี้ไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) ด้วยคะแนน 116 คะแนน งดออกเสียง 6 คะแนน



+++สถานการณ์ในต่างประเทศ ชาวมุสลิมทั่วโลกพากันเฉลิมฉลองวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา ส่วนที่นครเมกกะของซาอุดิอาระเบีย มีชาวมุสลิมจากทั่วโลกเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา เป็นวันสำคัญของชาวมุสลิม ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองและพบปะกับญาติพี่น้อง รวมทั้งบริจาคทานให้คนยากไร้ 



+++ทางการซาอุดีอาระเบีย นำอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน มาใช้ในการเฝ้าสังเกตการณ์ฝูงชนตามจุดต่างๆ บนเส้นทางในการประกอบพิธีฮัจย์ประจำปีนี้ ที่ผู้แสวงบุญจำนวนมหาศาลจะเดินทางเป็นระยะทางไกลเพื่อมุ่งหน้าสู่นครเมกกะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทางการซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า มีศาสนิกชนเดินทางมาถึงเพื่อเข้าร่วมพิธีฮัจย์ในปีนี้แล้ว 1.855 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ การยกระดับมาตรการความปลอดภัย



+++สถานการณ์น้ำท่วมที่เกาหลีเหนือ สำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ(โอซีเอชเอ)ระบุว่าน้ำท่วมในเกาหลีเหนือหลังฝนหนักมาหลายวัน มีคนเสียชีวิต 133 ศพ สูญหาย 395 คน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านเรือนกว่า 35,000 หลังคาและระบบสาธารณูปโภคถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก ประชาชนราว 1 แสน7,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย ระบุว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายได้มาจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ คาดว่าการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการการหุงต้มและการแผ้วถางป่าเพื่อการเพาะปลูกอาจจะเป็นสาเหตุของน้ำท่วมในเกาหลีเหนือ



+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โคเรียไทมส์ของเกาหลีใต้รายงานอ้างสำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ใกล้เมืองเคียงจู เมืองโบราณทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อเวลา 19.44 น.ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองนั้นไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 8 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานเรื่องการบาดเจ็บหรือความเสียหายสำคัญๆ แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ทั่วเมืองนี้และพื้นที่ใกล้เคียงรวมถึงเมืองอุลซาน



แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X