เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ เป็นประธานในการรำลึกถึงวันครบรอบ 15 ปี เหตุก่อการร้าย 11 กันยายน 2544 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันเสาร์ นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต จัดการระดมทุนที่นิวยอร์ก และกล่าวตอนหนึ่งว่า ครึ่งหนึ่งของผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันเป็นผู้ที่น่าสังเวชและบางคนในจำนวนนี้เกินเยียวยาไปแล้ว แต่ต่อมานางคลินตันออกแถลงการณ์ขอโทษและแสดงความเสียใจที่ใช้คำพูดรุนแรง และอธิบายว่า การหาเสียงส่วนใหญ่ของนายทรัมป์จะอิงกับอคติและอาการจิตหวาดระแวง และนางคลินตันยืนยันว่าจะไม่เลิกวิจารณ์ว่า การหาเสียงของนายทรัมป์ดื้อรั้นและเหยียดผิว
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของนางคลินตัน ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวาง ซึ่งนายทรัมป์เห็นว่า เป็นคำกล่าวที่แสดงให้เห็นว่า นางคลินตันไม่เหมาะจะเป็นประธานาธิบดีเพราะดูถูกเหยียดหยามคนอเมริกัน
ด้านแพทย์ที่โรงพยาบาลเมาต์ คิสโก เมดิคัล กรุ๊ป (Mount Kisco Medical Group) เปิดเผยว่า นางคลินตันป่วยเป็นโรคปอดบวมตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ แต่ยังคงเดินทางไปร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 15 ปีเหตุก่อการร้ายในเช้าวันอาทิตย์ และออกจากงานมาก่อนที่จะจบงาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นางคลินตันมีการฟื้นฟูอาการเป็นอย่างดี
ปัญหาสุขภาพของนางคลินตันถูกยกมาอ้างถึงหลายครั้ง โดยนางคลินตันเคยเข้ารับการผ่าตัดลิ่มเลือดเมื่อปี 2555 และแพทย์ยืนยันว่า นางคลินตันมีสุขภาพดีเยี่ยม พร้อมสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ส่วนเกาหลีเหนือซึ่งเพิ่งมีการทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 5 ไปเมื่อวันศุกร์ ก็ประกาศอีกครั้งว่าจะเสริมสร้างอำนาจนิวเคลียร์ต่อไปเพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามที่มาจากสหรัฐอเมริกา
เมื่อวานนี้ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ พบหารือกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น เกี่ยวกับมาตรการลงโทษฝ่ายเดียวต่อเกาหลีเหนือต่อเนื่องจากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ หารือกับประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ และนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ส่วนสหประชาชาติ ประณามการทดสอบนิวเคลียร์ และจะเริ่มพิจารณาบทลงโทษเกาหลีเหนือเช่นกัน
โฆษกของกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เผยว่า กองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดผู้นำซีเรีย และผู้สนับสนุนระดมโจมตีเมืองอิดลิบและเมืองอเลปโป ซึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลช่วงสุดสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิต รวมกว่า 100 ราย บาดเจ็บอีกราว 90 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ขณะที่รัฐบาลซีเรียเผยว่ากลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส และกลุ่มอัล-นูสรา ซึ่งเป็นแนวร่วมของเครือข่ายก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ โจมตีกองทัพรัฐบาลซีเรีย ซึ่งประจำการอยู่ในเมืองแดร์-อัล-ซูร์ ทางตะวันออกของซีเรียในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
การโจมตีอย่างหนักที่เกิดขึ้นนี้ มีขึ้นในช่วงก่อนที่จะมีการหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 10 วัน ตามข้อตกลงในกระบวนการสันติภาพซีเรีย ซึ่งจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันที่ 12 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับวันอีด หรืออีดิลอัฎฮา เทศกาลเฉลิมฉลองในศาสนาอิสลาม
กระทรวงกิจการภายในซาอุดีอาระเบีย ประกาศว่า ทางการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยพิธีฮัจญ์ในเมืองเมกกะปีนี้กว่า 1 แสนนาย โดยคาดว่า มีผู้แสวงบุญจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมพิธีตลอด 5 วันอย่างน้อย 3 ล้านคน ขณะที่กว่า 2 แสน 3 หมื่นคน ถูกห้ามเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีก 1 แสน 4 หมื่นคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองเมกกะในปีนี้
กองทัพเรือจีน และรัสเซียจะซ้อมรบทางทะเลเป็นเวลา 8 วัน ในบริเวณทะเลจีนใต้นอกชายฝั่งมณฑลกวางตุ้งทาง ตอนใต้ของประเทศตั้งแต่วันจันทร์ (12 ก.ย.) เป็นต้นไป และเป็นการซ้อมรบท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้ หลังศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ตัดสินว่า จีนไม่มีสิทธิในทางประวัติศาสตร์เหนือการครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้
ส่วนการเมืองฮ่องกง นายเอ็ดดี ชู วัย 38 ปี สมาชิกสภานิติบัญญัติคนใหม่ของฮ่องกง ซึ่งเคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านจีน เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ประกาศผลการเลือกตั้ง 4 กันยายน เขาไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะมีผู้ที่ขู่ว่าจะฆ่า และเขายังเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม นายชูไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่ขู่ฆ่า ขณะที่ทนายความขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญกับคดีนี้
ชาวสเปนจำนวนหลายพันคนร่วมการชุมนุมในกรุงมาดริด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประเพณีการสู้วัวกระทิง เพราะเห็นว่า เป็นการทรมานสัตว์และเป็นความอัปยศของชาติ การชุมนุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลท้องถิ่นในเมืองคาสติลญา ลีออง ประกาศห้ามฆ่าวัวกระทิงในเทศกาลต่าง ๆ ของเมือง แม้ฝ่ายที่ต้องการให้รักษาประเพณีการสู้วัว จะระบุว่านี่คือประเพณีที่ดำเนินมานานกว่าร้อยปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว มีการสู้วัวกระทิงในประเทศ 1,736 ครั้ง ลดลงไป 132 ครั้งเมื่อเทียบกับปี 2557
*-*