ในโอกาสครบรอบ 15 ปีเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันมีความสามัคคีปรองดองกันเพื่อรับมือกับภัยก่อการร้าย คำกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นในระหว่างการจัดรายการวิทยุประจำสัปดาห์ ก่อนหน้าวันครบรอบเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายนเพียงหนึ่งวัน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งใกล้ครบวาระการดำรงตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากล่าวว่า ชาวอเมริกันไม่ควรยอมให้ใครมาแบ่งแยก และไม่ควรตอบโต้ด้วยการกระทำที่จะกลายเป็นการทำลายสังคมอเมริกัน ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่าความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นได้เพราะสภาพสังคมที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ ดังนั้น ชาวอเมริกันทุกคนจึงควรอยู่กับความหลากหลายเหล่านี้เพื่อรักษาเสรีภาพและความมั่นคงของประเทศไว้ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามายังได้ตำหนินายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขึ้นเวที่ปราศรัยหาเสียงชูนโยบายกีดกันชาวมุสลิมหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เกิดเหตุกราดยิงในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโอ รัฐแคลิฟอเนีย ในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งนายทรัมป์ได้เรียกร้องให้มีการสั่งห้ามชาวมุสลิมทุกคนเดินทางเข้าสหรัฐฯ
เหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2544 เป็นการก่อการร้ายครั้งแรกที่กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงกระทำบนดินแดนของสหรัฐฯ โดยฝีมือของเครือข่ายอัลกออิดะห์ที่มีนายอุซามะฮ์ บินลาดิน เป็นแกนนำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3,400 คน และผู้สูญหายอีก 24 คน เหตุการณ์ในครั้งนั้นเริ่มขึ้นเมื่อเครื่องบินโดยสาร 2 ลำได้บินพุ่งชนตึกแฝดเวิล์ด เทรด เซนเตอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งด้านการเงินของมหานครนิวยอร์ก ก่อนที่เครื่องบินโดยสารอีกลำหนึ่งจะพุ่งชนอาคารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และเครื่องบินลำที่ 4 ตกลงบนสนามหญ้าในรัฐเพนซิลวาเนีย หลังจากที่ผู้โดยสารบนเครื่องพยายามต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่จี้เครื่องบิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตรประกาศสู้รบกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด และดำรงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ประธานาธิบดีโอบามากล่าวด้วยว่า ระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งการปราบปรามเครือข่ายอัลกออิดะห์ การสร้างความมั่นคงภายใน การป้องกันภัยจากการก่อการร้าย และการปกป้องชีวิตพลเมือง ในเวลาเดียวกัน เหตุร้ายที่เกิดขึ้นทั้งในเมืองบอสตัน เมืองซาน เบอร์นาร์ดิโอ และเมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา ต่างก็เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายทั้งสิ้น ดังนั้น สหรัฐฯ จึงจะยังคงเดินหน้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์ หรือกองกำลังรัฐอิสลาม ทั้งในอัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรีย และประเทศอื่นๆ ต่อไป เพื่อปกป้องประเทศและพลเมือง
..
**9.25F174**