เริ่มเกมมาเป็นทีมชาติรัสเซียที่มีโอกาสได้ยิงก่อน โดยการยิงของ วิคเตอร์ ฟายซูลิน แต่ผู้รักษาประตูเบลเยียมปัดออกไปได้ หลังจากนั้น ทีมชาติรัสเซียก็มีโอกาสครองบอลอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถผ่านแนวรับของเบลเยียมเข้าไปยิงได้ นาทีที่ 30 รัสเซียมีโอกาสได้ยิงอีกครั้ง จาก มักซิม คานันนิคอฟ แต่บอลไปติด ซีมง มีญอแล ผู้รักษาประตูเบลเยียม บอลออกหลังไป จนกระทั่งหมดเวลาในครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ สกอร์ยัง 0-0
เกมครึ่งหลังเริ่มขึ้น ยังเป็นทีมชาติรัสเซียที่ยังมีโอกาสได้ครองบอลมากกว่า แต่ก็เป็นการครองเกมในแดนกลาง ยังฝ่าแนวรับเบลเยียมเข้าไปยิงไม่ได้ แต่เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 88 ดิวอค ออริกี ตัวสำรองซึ่งถูกส่งลงมาแทน โรเมลู ลูกากู มายิงประตูให้เบลเยียมขึ้นนำรัสเซีย 1-0 และก็เป็นประตูชัยให้เบลเยียมเอาชนะรัสเซียไปในที่สุด 1-0 ทีมชาติเบลเยียมได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปอย่างแน่นอนแล้ว