+++การแถลงเรื่องการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา ผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสารที่ดินมูลค่าหมื่นล้านบาท พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึง กรณีเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่มีปัญหาว่า กล้องวงจรปิดแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือส่วนพื้นที่ด้านหน้า กล้องสามารถบันทึกได้ปกติ ส่วนที่สองคือบริเวณทางเดิน ในส่วนนี้กล้องสามารถใช้การได้ แต่ไม่สามารถบันทึกได้ และส่วนที่สามห้องคุมขังไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนกรณีเครื่องเซิฟเวอร์มีปัญหา ไม่ได้มีปัญหาช่วงนี้ แต่เริ่มมีปัญหามาตั้งแต่เดือนเมษายน ดีเอสไอ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำเรื่องแจ้งซ่อมมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง และได้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในวันเกิดเหตุเพิ่มเติม เนื่องจาก พบว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์มีการแจ้งข้อมูลเท็จ ทั้งกรณีผู้ต้องหาผูกคอเสียชีวิต แต่กลับแจ้งว่าเป็นลม และกรณีผู้ต้องขังใช้ถุงเท้าผูกคอ แต่กลับแจ้งว่าใช้เสื้อผ้า แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการสอบสวนได้
+++การลงพื้นที่ของพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รองผอ.รมน.) พร้อมคณะนายทหารกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ธีรชัย ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีสำคัญจากกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงรับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานด้านพัฒนาที่สำคัญ ในโครงการเมืองต้นแบบตามยุทธศาสตร์สามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ก่อนตรวจเยี่ยมการบูรณาการกล้องวงจรปิด ที่กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยแก้ไขปัญหา
+++จากอุบัติเหตุรถกระบะหลุดโค้ง พุ่งเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างทาง ที่บ้านวังขามป้อม ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตรงข้ามโรงเรียนวังขามป้อม อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ทำให้พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นั่งอยู่ที่เบาะคนนั่ง และ ดร.ณัฐ ชะพานนท์ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นคนขับ ล่าสุด ผศ.นพ.นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าพล.อ.สุรเชษฐ์ ขออนุญาตแพทย์ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่บ้าน ไม่คุ้นเคยที่นอนโรงพยาบาล อยากกลับไปนอนที่บ้าน โดยอาการปลอดภัยมีเพียงฟกช้ำ และเคล็ดขัดยอก บางส่วนเท่านั้น ส่วนดร.ณัฐ ต้องคอยดูอาการที่โรงพยาบาลต่อไป เนื่องจากได้รับการกระแทก แต่ก็ยังรู้สึกตัวอยู่
+++การพิจารณาคดีโครงการจำนำข้าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยเป็นนัดที่ 3 น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยกรณีที่รัฐบาลระบุจะไม่ใช้อำนาจมาตรา 44 ยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว แต่จะใช้คำสั่งทางปกครองดำเนินการตามกฎหมาย ว่า ไม่แน่ใจว่าการใช้มาตรา 44 จะเป็นการล่วงอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น และได้มีการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากหลายฝ่าย กระบวนการต่างๆ ในวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการของศาลที่ยังไม่จบ ซึ่งการเรียกค่าเสียหายคงจะต้องทำหลังจากทราบผลคดีอาญาแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะใช้วิธีใด จะเป็นอำนาจมาตรา 44 หรือคำสั่งทางปกครอง ถือว่าเป็นการใช้อำนาจในฐานะของการเป็นคู่ขัดแย้ง ดังนั้นจึงควรให้ศาลแพ่งเป็นผู้พิจารณาจะเหมาะสมกว่า
+++กรณีการส่งทนายไปร้องขอความเป็นธรรมกรณีผลสรุปค่าเสียหายของคณะกรรมการตรวจสอบการรับผิดทางละเมิดรั่วไหล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในเมื่อการตรวจสอบการรับผิดทางละเมิดยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบ และประธานคณะกรรมการก็บอกว่าเป็นความลับ ก็ไม่เข้าใจว่านพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ นำข้อมูลตรงนี้มาได้อย่างไร คิดว่า ถ้ามีความเป็นกลางข้อมูลต่างๆ ก็ไม่ควรรั่วไหลออกไปสู่คนข้างนอก ขอความกรุณาอย่าชี้นำการตัดสินใจของคณะกรรมการเพราะอยากให้การพิจารณาทุกอย่างไม่อยู่บนความกดดันของสังคม แต่พิจารณาจากข้อมูลข้อเท็จจริง
+++ส่วนการพิจารณาร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นเพียงความเห็น ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็อยากให้อยู่บนความพอดี และอยู่บนความสบายใจของประชาชน เพราะเมื่อทุกคนรับร่างรัฐธรรมนูญแล้วกฎหมายรูปต่างๆ ก็ต้องพิจารณาตามเนื้อหาและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การเดินทางมาที่ศาลฎีกาฯในวันนี้ มีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส. ร่วมทั้งประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจเช่นทุกครั้ง
+++ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเช้าดัชนีปรับตัวลดลง 6.05 จุด แตะที่ระดับ 1,449.63 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 2,320.44 ล้านบาท ตลาดผิดหวังกับผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ยังคงมาตรการอัตราดอกเบี้ยนโยบายและระยะเวลาทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การประชุมขององค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) ในวันที่ 26-28 กันยายน 2559 ส่วนปัจจัยในประเทศต้องรอดูผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของสัปดาห์หน้า ตลาดคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย
+++หลังจากการปิดตลาดในช่วงเช้าของวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดช่วงเช้าที่ 1,443.43 จุด ร่วงลงมา 11.95 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 24,005.99 ล้านบาท นายคณฆัส จิระเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระพัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้าปรับตัวขึ้นตามสัญญาณเทคนิค นำโดยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่บางตัว จากนั้นไม่นานปรับตัวลง ทำให้บรรยากาศตลาดรวมซึมลงและปรับตัวลงในภาคเช้า ทั้งนี้ตลาดหุ้นไม่มีปัจจัยบวก นักลงทุนติดตามสัปดาห์หน้า การประชุมกนง. ในวันที่ 14 กันยายน 2559 คาดว่าคงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 และการเพิ่มน้ำหนักของดัชนีฟุตซีคาดว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในหุ้นรายตัวที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก
+++เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่งทางบก และตำรวจรถไฟ ตรวจยึดรถบัสนำเที่ยว 2,155 คันของบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต ย่านลาดกระบัง โดยจะทยอยยึดเพื่อไม่ให้กระทบนักท่องเที่ยว พร้อมกับอายัดบัญชีเงินสดซึ่งเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัทและบริษัทในเครืออีก 381 บริษัท วงเงินกว่า 4,700 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว และบริษัทในเครือ 5 แห่ง ย่านลาดกระบัง และจระเข้น้อย 2 ครั้ง พร้อมออกหมายจับ นางนิสา และนายวสุรัตน์ รุ่งโรจน์รังสี ซึ่งทั้ง 2 คน ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท แล้ว
หลังจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยว จะเคลื่อนย้ายทรัพย์ที่ตรวจอายัด ไปเก็บไว้ในพื้นที่การรถไฟ เพื่อให้กรมการขนส่งทางบก ตรวจทะเบียน ตัวถังรถ ว่าเป็นไปตามกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากการตรวจเบื้องต้น พบว่ามีรถที่ไม่จดทะเบียนปะปนให้บริการนำเที่ยวด้วย
+++ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว บอกว่า เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ได้แจ้งไปยังสถานทูตจีนเพื่อแจ้งนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้ามาให้ทราบ และประสานกรมการขนส่งทางบก ให้จัดรถโดยสารมารับนักท่องเที่ยวที่ตกค้างแทน เพราะหลังอายัดทรัพย์ บริษัทจะต้องหยุดให้บริการ พร้อมกับบริษัทลูก ทั้งหมดตามความเห็นของคณะกรรมการ ปปง.ในการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ