DSI แถลงยันกล้องวงจรปิดใช้ได้ แต่การบันทึกภาพเสีย ด้านน้องชายของธวัชชัย ขอรอผลพิสูจน์หลักฐาน

09 กันยายน 2559, 11:41น.


หลังจากที่น้องชายและครอบครัวของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงา ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จังหวัดภูเก็ตและพังงา ติดใจเรื่องกล้องวงจรปิดหลังการเสียชีวิตของนายธวัชชัย วันนี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เชิญนายชัยณรงค์ น้องชายของนายธวัชชัย มาดูกล้องวงจรปิด และชี้แจงข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ไพสิฐ ยืนยันว่า กล้องวงจรปิดภายในดีเอสไอ มีทั้งหมด 49 ตัว แต่ในส่วนของจุดที่ควบคุมตัวผู้ต้องหามี 4 ตัว ทุกตัวใช้ได้ แต่มีปัญหาเรื่องการบันทึกภาพเสีย ต้องส่งไปตรวจอีกครั้ง กำลังดำเนินการติดตั้งกล้องใหม่ ประมาณ 27 ต.ค.ทั้งนี้ กล้องสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.และ 30 ส.ค. ไม่สามารถบันทึกภาพทางเดินได้ ยืนยันว่าภายในห้องควบคุมไม่มีกล้อง ดีเอสไอ ยืนยันทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำความจริงให้ปรากฎ หากครอบครัวติดใจสามารถมาร่วมสังเกตการณ์การพิจารณาคดีได้





นอกจากนี้ ดีเอสไอ ได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนดู เป็นภาพในวันที่เกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เดินทางมาให้ความช่วยเหลือนายธวัชชัย จากนั้นเป็นภาพที่นายธวัชชัยถูกจับครั้งแรก พร้อมชี้แจงว่าถุงเท้าตอนที่จับกุมสูงเพียงตาตุ่ม ภาพที่เจ้าหน้าที่นำมาทำบันทึกหลังจับกุม  ซึ่งจุดนี้ อธิบดีดีเอสไอ ได้อธิบายเรื่องของถุงเท้าที่นายธวัชชัยสวม เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ จากนั้นเป็นภาพภายในห้องควบคุม อธิบดีดีเอสไอ อธิบายให้เห็นด้วยว่า สื่งของเครื่องใช้ของนายธวัชชัยอยู่ในกล่อง จากนั้น เปิดเผยภาพที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปั๊มหัวใจในวันเกิดเหตุภายในห้องควบคุม และเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่นำนายธวัชชัยขึ้นเปลนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้  ดีเอสไอ ส่งภาพทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน ส่งต่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหากพนักงานสอบสวนสงสัยสามารถมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ตลอด ทั้งนี้ยังได้เปิดเผยภาพจากล้องวงจรปิดบริเวณหน้าลิฟท์ขณะที่มีการเคลื่อนย้ายตัวนายธวัชชัย เพื่อแสดงให้เห็นว่า หากมีบุคคลภายนอกเข้า- ออก กล้องบริเวณด้านล่าง จะสามารถบันทึกภาพได้ทั่งหมด





นอกจากนี้  อธิบดีดีเอสไอ ได้พาสื่อมวลชน ขึ้นไปดูกล้องวงจรปิด บริเวณชั่น 6 ด้วย ด้านนายชัยณรงค์  เปิดเผยว่า พอใจการแถลงระดับหนึ่ง ขอรอผลตรวจชันสูตรจากกองพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจก่อน 



ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม 

ข่าวทั้งหมด

X