อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยปิดน้ำตกหลังน้ำป่าไหลหลาก/สอบพยาบาลมงกุฎวัฒนะ/นายกฯหารือ นายกฯอินเดีย

08 กันยายน 2559, 12:37น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++ที่บริเวณน้ำตกแม่สา หมู่ที่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตและการดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สภาพน้ำมีสีน้ำตาลแดงเข้ม มีดินโคลนปะปน ประกอบกับการไหลของน้ำค่อนข้างเชียวกราก ระดับน้ำลึกราว 1.5-2 เมตร ทำให้ทางหัวหน้าหน่วยน้ำตกแม่สาและหัวหน้าหน่วยน้ำตกตาดหมอก เห็นควรพิจารณาขอปิดบริการการท่องเที่ยวในพื้นที่น้ำตกแม่สาและบริเวณน้ำตกตาดหมอก จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปรกติ ในเบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย ประกอบกับได้สั่งให้กับทางเจ้าหน้าของภาครัฐในชุมชนใกล้เคียงแจ้งเตือนภัยให้แก่ราษฎรต่อเนื่อง  คาดว่าสถานการณ์น้ำหลากจะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงบ่ายของวันนี้



+++หลังนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ที่ถูกควบคุมไว้ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 6 ดีเอสไอ ได้ใช้ถุงเท้าผูกคอกับลูกกรงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ตำรวจปรากฎว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้คือภาวะตับแตกและเลือกออกในช่องท้องช่วงเช้าวันนี้ ที่ สน.ทุ่งสองห้อง น.ส.ละอองดาว ปินะถา น.ส.พยอม ตาสว่าง เจ้าหน้าที่ ซีซียู หอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับช่วงต่อจากชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมด้วยหัวหน้าพยาบาล ที่ปรึกษาทางกฎหมายโรงพยาบาลมงกุฎแจ้งวัฒนะ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว. (สอบสวน) และร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) โดยมีอัยการร่วมสอบ พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่พยาบาลจำนวน 2 คน ซึ่งเป็นพยาบาลประจำห้องซีซียู ที่รับช่วงต่อจากชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เป็นชุดปั๊มหัวใจ นายธวัชชัย มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยทางเจ้าหน้าที่พยาบาลไม่ให้สัมภาษณ์ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานมากนัก รายละเอียดนั้นจะต้องทำการสอบปากคำให้แน่ชัดเสียก่อน  ส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่มีการกำหนดวัดพิสูจน์ของนายธวัชชัยครั้งที่สองเนื่องจากต้องรอคณะกรรมการกลาง จากกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้กำหนดวัน



+++พรุ่งนี้  นายณรงค์  เขียดเดช ผู้ว่าการ กทพ. และผู้บริหารบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ผู้รับสัมปทานทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร  หรือด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ   จะจัดแถลงข่าวผลการเปิดใช้ทางด่วนสายนี้ ที่ให้บริการเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ศูนย์ควบคุมทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนฯ (CCB7) ถนนประชาราษฎร์ สาย 1    พบว่ามีปริมาณรถใช้บริการประมาณ30,000-40,000 คันต่อวัน  แม้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 80,000-90,000 คันต่อวัน แต่ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เนื่องจากทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯเป็นทางด่วนสายใหม่ ต้องใช้เวลาให้คนกรุงเทพฯปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เส้นทาง  ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นมีเฉพาะบริเวณด่านบางซื่อ2ที่ยังมีปัญหาจราจรติดพันมาจากทางด่วนศรีรัช(ทางด่วนขั้นที่2) เท่านั้น ส่วนจุดขึ้นลงด่านอื่นๆ รวมทั้งช่องเก็บเงินอัตโนมัติ(ระบบซี่พาส) ยังใช้การได้ดีไม่มีข้อขัดข้องแต่อย่างใด  พร้อมประเมินปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อปรับปรุงการให้บริการต่อไป



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทสไทย เปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้นบวกเล็กน้อย หลังจากนั้นดัชนีหุ้นปรับตัวลดลง21.28 จุด อยู่ที่ 1.465.92 จุด  ตลาดหุ้นยังขาดปัจจัยกระตุ้นที่ใหม่ๆ ต่อตลาด ล่าสุด ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,471.01 จุด ลดลง 16.19 จุด  



+++วันที่สามของการประชุมสุดยอดอาเซียน น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 14  ร่วมกับผู้นำชาติอาเซียนและนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีแห่งอินเดีย พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และชื่มชมต่อนโยบาย “Act East” ที่ให้ความสำคัญต่อการเพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากขึ้น และเห็นว่า ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียนมีความสำคัญต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และในโอกาสที่ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดียจะครบรอบ 25 ปี พ.ศ. 2560 นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทาง “Act West” เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของอินเดียและเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเช่นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันให้แน่นแฟ้นขึ้นในทุกด้าน อาเซียนและอินเดียควรร่วมมือกันเร่งรัดการสร้างถนนสามฝ่าย ไทย-เมียนมา-อินเดียให้แล้วเสร็จ รวมทั้งสนับสนุนการเชื่อมต่อเส้นทางนี้ไปสู่อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ควบคู่กับการปรับประสานกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการค้า การขนส่งข้ามแดน เพื่อให้อาเซียนและอินเดียสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางนี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด



+++นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไน ชื่นชมข้อริเริ่มต่างๆในการพัฒนาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ไม่ว่าจะเป็น “Made in India” “Digital India” หรือ “Smart Cities” ซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ รวมทั้ง ประเทศไทยที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระจายความเจริญและการพัฒนาอย่างสมดุล โดยใช้โมเดล”ประเทศไทย 4.0” หรือ การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และมีแผนงานที่เน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนากฎระเบียบต่าง 

ข่าวทั้งหมด

X