เหตุอาคารทรุดตัวและมีระเบียงอาคารพาณิชย์ถล่มมีรถยนต์ของประชาชนเสียหายจำนวนหลายคัน บริเวณหลังตลาดประชานิเวศน์ 1 ถนนรังสฤษดิ์เหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 12 คูหา ตั้งแต่บ้านเลขที่ 99/140-151 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบียงกันสาดปูนร่วงหล่นลงมาเป็นจำนวนมาก มีรถยนต์ประชาชนได้รับความเสียหายเบื้องต้น 8 คัน ได้แก่ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน รฉ 5086 กรุงเทพมหานคร รถบรรทุกสี่ล้อเล็ก ยี่ห้ออีซูซู สีขาว ทะเบียน ปท 2448 กรุงเทพมหานคร รถกระบะดัทสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 6 ฆ 8787 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า ฟรีด สีขาว ทะเบียน 3141 กรุงเทพมหานคร รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 1 กศ 9728 กรุงเทพมหานคร รถกระบะดัทสัน สีแดง ทะเบียน 5 ย 8488 กรุงเทพมหานคร และยังมีรถจักรยานยนต์เสียหายอีก 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฬบข 981 กรุงเทพมหานคร และยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่โดยรอบและให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ และประกาศให้ผู้ที่อยู่ในตึก หรือหากสงสัยว่ามีใครติดอยู่ในตึกให้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด่วน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชุลมุน ขณะที่บางคูหาไม่มีคนอยู่ นอกจากนี้ยังได้มีการตัดไฟเพื่อเข้าไปด้านใน พร้อมเร่งเคลียร์ทาง และประกาศให้คนที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงคนที่นำรถมาจอดไว้บริเวณใกล้ตึก ให้รีบนำรถออกโดยด่วน เนื่องจากกังวลว่าอาจมีการถล่มลงมาอีก
ด้าน นายเชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าเป็นส่วนกันสาดของอาคารที่ถล่มลงมา ทำให้รถที่จอดอยู่เสียหาย โดยในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่โยธาเขตจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุรีบเดินทางมาดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีผู้ติดค้างอยู่ภายในตัวอาคาร ขณะนี้ประสานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งให้การช่วยเหลือตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามไม่นิ่งนอนใจ ได้ประสานเจ้าหน้าที่โยธาธิการสำนักงานเขตจตุจักรเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการทรุดตัวและถล่มที่แท้จริงต่อไป อาคารดังกล่าวปลูกมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2525 เป็นเวลา 34 ปีแล้ว โดยเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานเขตจตุจักรมีหนังสือแจ้งมายังประชาชนที่พักอาศัยในอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อให้ย้าย โดยจะปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหมด แต่ยังไม่มีใครย้ายออก เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟ้องร้องในชั้นศาลอยู่