ภายหลังการเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 และ 29 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 โดยในที่ประชุมมีการรับรองเอกสาร 2 ฉบับ ได้แก่ แผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน ฉบับที่ 3 และ ) แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. 2025
พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ประธานประธานอาเซียนในปีนี้ โดยไทยเห็นว่าอาเซียนควรเร่ง “เปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม” โดยเร็วเพื่อความเป็นเอกภาพและมั่นคงของประชาชนอาเซียน โดยการสร้างความสมดุลเพื่อนำวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 3 ด้าน
ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีเสนอให้อาเซียนรักษาความสมดุลระหว่างการสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ประชาชนได้รับการดูแลและใช้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างทั่งถึงและเท่าเทียม มีการใช้นวัตกรรม ปัจจุบันไทยมีนโยบาย 4.0 ที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมวิสาหกิจเกิดใหม่ (Start-Ups) การเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมใหม่
ด้านความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีสนับสนุนความเชื่อมโยงและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอาเซียนควบคู่กับการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพภายในภูมิภาค เพื่อให้การไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนเป็นอย่างราบรื่น สำหรับการรับมือกับสิ่งท้าทายและผลกระทบเชิงลบจากความเชื่อมโยง เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติรูปแบบใหม่ ปัญหายาเสพติด การเคลื่อนไหวที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง อาเซียนจำเป็นต้องกระชับความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในการป้องกัน สกัดกั้น และระงับยับยั้งการกระทำผิดกฎหมาย
ภายหลังการประชุม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีลงนามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (One ASEAN, One Response) และการประกาศแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ และแผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน