หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเวนคืนที่ดิน ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยนายกรัฐมนตรี มีความต้องการให้ใช้ประโยชน์มากที่สุด ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐธรรมนูญหลังปี 2521 ระบุว่า หากรัฐบาลไม่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินจากการเวนคืน รัฐบาลต้องคืนให้กับเจ้าของเดิมหรือทายาท ทำให้การใช้ประโยชน์ของที่ดิน มีข้อจำกัด ดังนั้น ในยุคต่อๆ ไป หากที่ดินที่ได้รับการเวนคืน หรือใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาจะกำหนดให้มีกฎหมายเวนคืน กำหนดให้เจ้าของเดิมหรือทายาท ใช้สิทธิ์ขอคืนได้ในระยะเวลาที่กำหนด แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดชัดเจนถึงระยะเวลาดังกล่าว
โดยเจ้าของเดิมหรือทายาท สามารถใช้สิทธิ์ขอคืนที่ดินกลับมาได้ แต่ไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด หากเวลาล่วงเลย พื้นที่ดังกล่าวจะตกเป็นของรัฐ ซึ่งรัฐสามารถใช้ที่ดินดังกล่าวได้ ทั้งนี้ จะมีการเพิ่มบทบัญญัติอย่างชัดเจน โดยหากหน่วยงานรัฐไม่เข้ามาใช้งานกับพื้นที่ที่เวนคืนแล้ว ถือว่าตกเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งหากต้องใช้ประโยชน์เพิ่มเติมสามารถต้องระบุถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดินดังกล่าวอย่างชัดเจน มายังคณะกรรมการระดับชาติ ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น หลังจากนั้นหากคณะกรรมการลงความเห็นชอบ จะนำเข้าสู่ ครม. พิจารณาต่อไป
ที่ประชุม คณะรัฐมนตรียังอนุมัติ งบประมาณกว่า 250 ล้านบาท เพื่อสร้างทางหลวงเข้าท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อเป็นการขยายเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี