พณ.ติดตามกรณีนักวิจัยจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกระท่อม/ท่องเที่ยวปราบทัวร์ศูนย์เหรียญและนอมินี

06 กันยายน 2559, 08:31น.


กรณีที่เว็บไซต์ biothai.net ระบุว่า นักวิจัยญี่ปุ่นยื่นจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกระท่อม ซึ่งเป็นความร่วมมือในการศึกษาของนักวิจัยญี่ปุ่นร่วมกับนักวิจัยไทย และนำผลงานการวิจัย ไปยื่นขอจดสิทธิบัตรที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีก่อน โดยได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วใน 2 ประเทศ นอกจากนี้ ยังยื่นขอจดสิทธิบัตรผ่านสนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) โดยยื่นขอจดที่ประเทศเดียว แต่จะมีผลบังคับใช้ได้ในทุกประเทศที่เป็นสมาชิก PCT ที่รวมถึงไทยด้วย



แต่นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมของไทย ไม่อนุญาตให้มีการจดสิทธิบัตรพืช หรือสารสกัดจากพืช แต่พ.ร.บ.สิทธิบัตรไทยจะรับจดเฉพาะกระบวนการ หรือวิธีการที่ใช้ในการสกัด ที่มีการพัฒนาขึ้นใหม่ หรือต่อยอด ไปจากวิธีการเดิมเท่านั้น ไม่รับจดสิทธิบัตรสารสกัดใหม่ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้บุคคลใดถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว กับสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ โดยกระท่อมเป็นพืชพื้นเมือง จึงยืนยันว่าไม่ต้องกังวลว่าไทยจะรับจดสิทธิบัตรให้นักวิจัยทั้งไทยและต่างชาติ  อีกทั้งกระท่อมอยู่ในบัญชีสารเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522  ที่ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง หากจะดำเนินการต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีก่อน



ส่วนข้อกังวลเรื่องต่างชาติเอาพืชไทยไปพัฒนาต่อยอดโดยไม่ขออนุญาต และไม่แบ่งปันผลประโยชน์ นั้น ไทยมีกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช  ซึ่งกำหนดว่าใครจะเอาพันธุ์พืชไทยไปใช้ต้องขออนุญาตก่อน และต้องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ ซึ่งสอดรับกับอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biodiversity หรือ CBD) ซึ่งไทยเป็นสมาชิก



ยังมีกรณีของการท่องเที่ยว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มีคำสั่งให้ตรวจสอบการท่องเที่ยวในลักษณะทัวร์ศูนย์เหรียญ และนอมินี โดยชาวต่างชาติลักลอบเปิดบริษัทโดยให้คนไทยเป็นตัวแทนประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า บริษัทโอเอ เป็นทัวร์ศูนย์เหรียญรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีการดำเนินการมากว่า 40 ปี แต่มีทั้งบริษัทจิวเวลรี่ เครื่องหนัง ร้านอาหารอยู่ในเครือ ที่ห้ามคนไทยเข้า ให้เข้าได้เฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น และจะมีการยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้บริหารในข้อหาร่วมกันกระทำการเป็นอั้งยี่และร่วมกันทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว



พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) เปิดเผยการตรวจค้น 5 บริษัทที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (บริษัทรอยัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท บางกอก แฮนดิกราฟท์เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัทรอยัลไทยเฮิร์บ จำกัด, บริษัท โอเอ จำกัด และบริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด) มีเครือข่ายซึ่งเป็นร้านค้ากระจายตัวอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทางดีเอสไอ สรรพากร กรมการท่องเที่ยวกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ ปปง.ได้ตรวจยึดและอายัดเอกสารที่เกี่ยวข้องในบริษัทเพื่อนำไปสอบสวนขยายผลหลายรายการ เบื้องต้นเชื่อว่า ทั้ง 5 บริษัทมีเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินนับ 10,000 ล้านบาท



ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ทหาร ตำรวจ และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องร่วมมือกันมากขึ้นในการทำงานระหว่างพื้นที่ ตั้งแต่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประสานงานกับทุกหน่วยงานในการดูแลให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งทุกเหล่าทัพพร้อมให้ความร่วมมือในการสนับสนุนภารกิจ รวมทั้งอุปกรณ์พิเศษ เช่น อากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) แม้จะมีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ต้องมีการจัดกำลังจากส่วนอื่นๆ ไปทดแทนในทุกพื้นที่



นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงและ รฟท.อยู่ระหว่างปรับหน้าดินซ่อมแซมทางรถไฟที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเดินรถช่วงหาดใหญ่ไปยังสุไหงโก-ลก ได้ก่อนวันที่ 12 กันยายนนี้



ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนายรุจ เขื่อนสุวรรณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เบิกความเปิดคดีประวัติศาสตร์แชร์ลูกโซ่หมื่นล้านยูฟัน โดยมีผู้ต้องหากลุ่มแรก อาทิ ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ กรรมการผู้จัดการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จํากัด นายไมเคิล ลัย นักการทูตแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่บังหน้าเปิดธนาคารเถื่อน UDBP ร่วมกับ นายหยาง หยวน เฉา รองประธานธนาคาร UDBP นายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตรองโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา และกลุ่มแม่ข่าย รวมถึง รวม 41 คน



ที่ศาลอาญาเช่นกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. จะเป็นพยาน คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกฟ้องหมิ่นประมาท นายสมัคร สุนทรเวช



กรณีนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงาที่เสียชีวิต ในระหว่างถูกควบคุมตัวที่ดีเอสไอ เมื่อวานนี้ นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทราบว่าจะมีการผ่าชันสูตรอีกครั้งโดยนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม จึงขอให้รอผลการชันสูตร์ก่อน หากยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายก็พร้อมน้อมรับ



พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเข้าตรวจค้นคดีฟอกเงิน 3 จุด พื้นที่บริเวณอ.คลองหลวง



ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.แจ้งวัฒนะ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำกลุ่มผู้เสียหายมาพบเจ้าหน้าที่ กรณีที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพ อ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมฯ ทำคดีมรดกของเจ้าของบริษัทชาวออสเตรเลียที่เสียชีวิตที่ต่างประเทศ โดยมีผู้หลงเชื่อสูญเงินสูงสุดถึง 5 ล้าน 2 แสนบาท รวมยอดความเสียหายมากกว่า 15 ล้านบาท



ส่วนกรณีที่ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห้ามนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า น้อมรับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แต่ก็ชี้แจงด้วยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเสมอ การนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวจะยกมาเฉพาะคดีที่เป็นที่สนใจและเป็นประโยชน์กับประชาชนเท่านั้น รวมถึงการที่ผู้ต้องหายินยอมมีการลงลายมือชื่อให้มีการแถลงข่าว



นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ห้ามนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว เป็นไปตามหลักกติกา ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองที่ระบุชัดว่า การนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้ห้ามหน่วยงานแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ยังสามารถแถลงผลการจับกุมได้ นอกจากนี้ทางกระทรวงยุติธรรม จะทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อวางระเบียบห้ามสื่อนำเสนอภาพผู้ต้องหาเช่นกัน



ส่วนข่าวอาชญากรรม คดีที่มีผู้พบศพนางจันทร์สมร เสนสักดา อายุ 26 ปี และนางกอง พมสาลี อายุ 40 ปี ชาวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 จนเสียชีวิตแล้วนำศพมาทิ้งในป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ในเขต ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยตำรวจตั้งประเด็นสังหารอาจมาจากปัญหาชู้สาว ขัดแย้ง ธุรกิจมืด และฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งพล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภาค 4 เปิดเผยผลการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย นายเฉลิมพงษ์ ฉายไสว, นายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล, นายธงชัย ทีจันทร์มาตย์, นายปุณณภพ ภูศิลาแทน, และนางกุลนันท์ แสงโสภณ โดยผู้ตายทั้งสองเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านพรมแดน จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2559 และกลุ่มคนร้ายล่อลวงผู้ตายขึ้นรถยนต์ 2 คัน แล้วนำตัวมาที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองมุกดาหาร-ดอนตาล แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายทั้งสองภายในรถจนเสียชีวิตจากนั้นนำศพมาทิ้งที่เกิดเหตุ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหา 4 คน ให้การรับสารภาพ ส่วนนายโอกาศซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือยิงยังคงให้การภาคเสธ อย่างไรก็ตามในกลุ่มที่สารภาพ อ้างว่ากลุ่มมีชื่อแก๊งว่า ช.ช้างดำ ได้รับการว่าจ้างจาก "เจ๊นาง" ซึ่งเป็นหญิงสัญชาติลาวอยู่ที่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เป็นเงิน 4 แสนบาท เพื่อให้ฆ่าผู้ตายทั้ง 2 คนที่เป็นชู้กับสามี



นายสอนเพชร เพียรบุพผา ตัวแทนกงสุล สปป.ลาว ณ จ.ขอนแก่น กล่าวขอบคุณในนามตัวแทนญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้โดยเร็ว โดยมีการรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว



และในเวลา 19.15 น.วันนี้ ฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบกับญี่ปุ่น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายพ่ายแพ้มาในนัดแรก และต่างก็ต้องการคะแนนในวันนี้



 ..

ข่าวทั้งหมด

X