การนำน้องๆ กลุ่มเยาวชนลงพื้นที่ไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ตามโครงการยุวชนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในช่วงบ่ายวันนี้ เป็นไปด้วยความสนุกสนานจากการร่วมทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ
เด็กหญิงเสาวลักษณ์ ทองสง่า หรือน้องปอย จากชุมชนหลังกรมทางหลวง ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ เล่าว่า เจ้าหน้าที่ได้พาขึ้นรถไปยังจุดเดินป่าศึกษาธรรมชาติ รวมถึงทหารที่เป็นเจ้าหน้าที่ ได้สอนการผูกเงื่อนต่างๆ เช่นเงื่อนพิรอด หรือเงื่อนบ่วงสายธนู ที่สามารถนำมาช่วยให้เรารอดพ้นจากอันตราย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ตกน้ำหรือ ตกลงไปในท่อที่มีขนาดแคบ จากนั้นเป็นการเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ ในระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยทางเข้าไปยังเส้นทางเดินป่าแห่งนี้ เป็นทางแคบๆ สามารถเดินได้ทีละคน บางช่วงต้องใช้การเบี่ยงตัวเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับมีหนามของต้นไม้ และใบไม้ที่อาจจะบาดแขน ลำตัว หรือพันขาจนอาจทำให้ล้มได้
นอกจากนี้ ภายในป่ายังประกอบไปด้วย ต้นไม้พรรณไม้ต่างๆ ทั้งที่รับประทานได้ เช่น หน่อไม้ พริก ต้นบุก หรือ ที่ไม่สามารถรับประทานได้ เช่น ดอกดาหลา มอส เฟิร์น ที่ขึ้นอยู่ริมทางเดินตลอดระยะทาง สำหรับการเดินป่าครั้งนี้ ยังมีการสอนหุงข้าว และทำกับข้าวในกระบอกไม้ไผ่ เช่น ต้มยำปลากระป๋อง ไข่ตุ๋น ซึ่งสามารถนำมาช่วยเหลือตัวเองได้หากหลงป่า อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในวันนี้สามารถสร้างเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และให้ความรู้กับเด็กๆที่อาศัยอยู่รอบการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และได้แสดงฝีมือการหุงข้าวและทำกับข้าวด้วย
การจัดกิจกรรมในวันนี้ กทพ. พาเยาวชนในโรงเรียนรอบเขตการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ชุมชนละ 12 คน 10 ชุมชน รวม 120 คน รวมทั้งผู้นำเยาวชนอีก 19 คน เข้าร่วมกิจกรรมตามฐานต่างๆ เช่น เลื่อนข้ามลำน้ำ ยิงปืนบีบีกัน (เป้านิ่ง) ยิงธนู เป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติ หวังว่าเยาวชนที่ได้เข้าร่วมโครงการในวันนี้จะได้รับความรู้และนำไปพัฒนาปรับใช้ในชีวิตประจำวันและช่วยกันรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร