ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะแจงทุกขั้นตอนช่วยชีวิตอดีตจนท.ที่ดินภูเก็ต น้องชายยังไม่เผาศพ

01 กันยายน 2559, 16:42น.


หลังการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาทุจริตที่ดินจังหวัดภูเก็ตและพังงา พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาล ชี้แจงและตอบข้อสงสัยกับทางสื่อมวลชน โดย น.ส.สุมาลี มงคลเกตุ พยาบาลแผนกฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ เล่าว่า ในคืนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 01.15 น. เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินได้รับแจ้งว่ามีคนไข้อาการคล้ายเป็นลม ให้รีบส่งรถพยาบาลมารับโดยด่วน จึงได้เร่งเดินทางเข้าช่วยเหลือ เมื่อไปถึงดีเอสไอพบนายธวัชชัยอยู่ในสภาพไม่หายใจ ไม่มีชีพจร จึงได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ หรือ CPR ก่อนที่ในอีก 15 นาทีต่อมา จะทำการเคลื่อนย้ายนายธวัชชัยมาที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำ CPR ให้อย่างต่อเนื่อง





จากนั้น ทีมแพทย์ได้ทำการต่อท่อ ให้ยากระตุ้นหัวใจ ร่วมกับการช็อตไฟฟ้า ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจกลับขึ้นมา แต่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต สลับกันจึงได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าสู่ห้องดูแลคนไข้วิกฤต (CCU) ซึ่งพยาบาลได้พยายามใช้มือคลำชีพจรที่ขาหนีบคนไข้ แต่ไม่พบชีพจร ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้ให้ยากระตุ้นหัวใจทุกๆ 3 นาทีควบคู่กับการทำ CPR  จากนั้นทีมแพทย์ได้มีการชี้แจงกับทางญาติซึ่งรวมถึงน้องชายของนายธวัชชัยด้วย ว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ทางญาติจึงได้รับรู้และเซ็นยินยอม ก่อนที่นายธวัชชัยจะเสียชีวิตในเวลา 04.45 น. วันที่ 30 สิงหาคม อย่างไรก็ดี ในบันทึกของพยาบาลในห้องซีซียูได้ระบุถึงเพียงว่า ผู้เสียชีวิตมีรอยช้ำเป็นแนวยาวบริเวณลำคอเท่านั้น  และก่อนการส่งร่างนายธวัชชัยไปให้แพทย์นิติเวชทำการชันสูตร โดยแพทย์ของ รพ.มงกุฎวัฒนะได้สรุปการเสียชีวิตว่า ผู้ตายเสียชีวิตในโรงพยาบาลโดยไม่ทราบสาเหตุ





ขณะเดียวกัน ทางทีมแพทย์ที่ทำการช่วยเหลือ เปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตได้ใส่ชุดเดิมมาโดยไม่ทีการเปลี่ยนเสื้อผ้าจนกระทั่งเข้าห้อง CCU เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของทางโรงพยาบาล แต่ยืนยันว่าไม่รอยฉีกเสื้อผ้า พร้อมกับยืนยันว่าตั้งแต่เริ่มรับตัวคนไข้มารักษาจากดีเอสไอจนมาถึงโรงพยาบาล ทางทีมแพทย์ไม่ได้รับแจ้งว่าคนไข้มีอาการผูกคอ ซึ่งส่งผลต่อการรักษาของทางทีมแพทย์ ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตว่าทางทีมแพทย์เห็นร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายของคนไข้หรือไม่ ทางแพทย์ไม่ได้สังเกตในรายละเอียดตรงจุดนั้น เพราะต้องเร่งทำการช่วยเหลือคนไข้ก่อน อีกทั้งยืนยันว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีกรณีการทำ CPR และทำให้คนไข้ตับแตก ซึ่งผลที่อาจจะเกิดขึ้นมีแค่ซี่โครงหักเท่านั้น แต่ก็ไม่สามรถส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้ 





ส่วนการฌาปนกิจศพ นายธวัชชัย จากเดิม ที่จะมีการเผาศพในวันนี้  ที่วัดบางหลวงในเวลา 16.00 น. ล่าสุดนายชัยณรงค์ น้องชายของผู้เสียชีวิต ได้แจ้งว่าจะยังไม่ได้มีการฌาปนกิจศพในวันนี้ แต่จะทำพิธีกรรมทางศาสนา หรือเผาหลอก ตามเดิม ก่อนจะเก็บศพเอาไว้จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด เพราะยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็นจากสังคม

ข่าวทั้งหมด

X