เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานว่า ผู้ประท้วงในประเทศกาบอง หนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบทางตอนกลางของทวีปแอฟริกา ได้ปะทะกับตำรวจและบุกเผาอาคารรัฐสภา หลังประธานาธิบดี อาลี บองโกได้รับการประกาศว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้านนายฌ็อง ปิง ผู้สมัครจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านระบุทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีคนเสียชีวิตหลายศพจากเหตุรุนแรงที่เริ่มต้นในกรุงลีเบรอวิล ตำรวจได้ฉีดแก๊สน้ำตาและสายฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กลุ่มผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งจัดขึ้นหลังการรณรงค์หาเสียงอย่างดุเดือดของผู้สมัครทั้งสอง
ด้านพรรคฝ่ายค้านได้คัดค้านผลการเลือกตั้ง หลังการแถลงของคณะกรรมการเลือกตั้งว่า นักการเมืองในตระกูลบองโกจะทำหน้าที่บริหารประเทศต่ออีก 7 ปีหลังครองอำนาจมาเกือบ 50 ปี สำหรับผลคะแนนทางการคือ นายอาลี บองโก ชนะนายฌ็อง ปิง อย่างสูสี ร้อยละ 49.8 ต่อร้อยละ 48.2 มีส่วนต่างของผลคะแนนราว 5,594 เสียง แต่พรรคฝ่ายค้านไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง กล่าวหาพรรครัฐบาลว่าทุจริต ด้านคณะผู้สังเกตุการณ์ของสหภาพยุโรปวิจารณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ของกาบองไม่มีความโปร่งใสเท่าที่ควร
ที่ผ่านมากาบองประสบปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผลพวงจากราคาน้ำมันดิบตกต่ำ ทำให้รัฐบาลต้องปรับลดงบประมาณจำนวนมาก ทำให้พรรคฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลว่าภายใต้การบริหารประเทศของนายอาลี บองโก ประชาชน 1.8 ล้านคนมีปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ด้านสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลกาบองเปิดเผยรายละเอียดผลคะแนนให้สาธารณชนทราบ ขณะที่นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้สาธารณชนในกาบองอยู่ในความสงบ/15.30 น.