+++กรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงา ในห้องควบคุมผู้ต้องขังของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก
+++พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากที่ดีเอส ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว เพื่อให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ภายใน 15 วัน รวมไปถึงการตรวจสอบว่า ขณะเกิดเหตุมีใครหรือบุคคลใดอยู่กับผู้เสียชีวิตบ้าง ยืนยันว่า หากพบใครกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย และกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด พันตำรวจตรีสุริยา กล่าวว่า ดีเอสไอยินดีให้ความร่วมมือ หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ส่วนกรณีที่ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้ ดีเอสไป จะไม่ก้าวล่วง แต่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับครอบครัว อย่างไรก็ตามผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช ไม่ได้ส่งมาให้ดีเอสไปโดยตรง แต่จะส่งไปที่สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี
+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายธวัชชัย โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะมีหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษที่เข้าจับกุมร่วมด้วย เบื้องต้นให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดยการสอบสวนจะเริ่มตั้งแต่การเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ไปจนถึงการควบคุมตัวมาที่ดีเอสไอ ซึ่งจุดที่เป็นห้องขังดีเอสไอมีกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดินเพื่อตรวจสอบคนเข้า-ออกได้ แต่ไม่มีกล้องวงจรปิดภายในห้องขัง เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังที่ไม่อาจละเมิดได้
+++พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเป็นที่ยอมรับและเป็นมาตรฐานสากล แต่หากญาติยังเคลือบแคลงสงสัยผลการชันสูตร ก็มีขั้นตอนอื่นรองรับในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอยู่แล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งกำชับให้ตำรวจทำคดีอย่างเร่งด่วน และให้ความเป็นธรรม
+++พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สถาบันได้เก็บรายละเอียดเนื้อเยื่อในซอกเล็บ เลือด และอื่นๆในร่างกาย เพื่อตรวจในห้องปฎิบัติการ หรือห้องแล็ป คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจะทราบผล ทั้งนี้หากมีการต่อสู้เกิดขึ้นก่อนจะเสียชีวิต สามารถตรวจพิสูจน์ได้เพราะจะมีหลักฐาน เช่น เนื้อเยื่อ และDNAของบุคคลอื่นรวมอยู่ รวมทั้งหากมีสารพิษในร่างกาย สามารถตรวจพิสูจน์จากเลือดได้เช่นกัน พร้อมปฎิเสธไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่าการทำช่วยชีวิตด้วยการทำCPRหรือปั้มหัวใจ จะทำให้ผู้ตายตับแตกได้หรือไม่ เนื่องจากไม่รู้ขั้นตอนการช่วยชีวิตหรือการรักษาของทีมแพทย์ ที่เข้าไปทำการรักษา
+++หลังจากที่เจ้าหน้าที่รวบตัวนางอัมพร ใจก้อน อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ได้ที่บ้านพักในจ.เชียงใหม่ ได้ควบคุตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส่งให้ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นางอัมพร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ออกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 ข้อหาร่วมกันทำประกอบซ่อมแซม สั่งซื้อ หรือมีใช้ หรือนำเข้าวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันทำให้เกิดระเบิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามรายงานของตำรวจ ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพบระเบิดในบ้านเช่าท้องที่มีนบุรี และเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น เมื่อปี 2553 ที่เป็นกลุ่มเดียวกัน และผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จักกับนายสมัย เจ้าของห้องเช่าที่เกิดเหตุระเบิด ที่เป็นชาวอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เหมือนกัน แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว จึงขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
+++การคลี่คลายคดีคนร้ายก่อเหตุสังหารนายฉวี อินทระ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดพังงา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้คลี่คลายคดีการหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.2559 จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทำการสอบสวน จนรับสารภาพได้ 2 คนแต่ยังเร่งติดตามอีก 3 คน ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติหมายจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 5 คน คือนายจีระเดช แป๊ะดำ ,นายสุทธิพงศ์ บุปผาคร ซึ่งถูกเจ้าหน้าคุมตัวได้ตั้งแต่วานนี้ โดยเฉพาะนายจีระเดช เป็นผู้นำชี้จุดทิ้งศพในคลอง ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคือนายอดิศักดิ์ ทองสมจา หรือหมู ,นายชัยชนะ เกิดมุสิก และนายสุวัฒน์ มาลาวัฒน์ หรือปาล์ม ทั้งสามคนยังหลบหนี ส่วนนางสาวณัฐนันท์ อินทร์ดำในฐานะผู้แชตล่อลวงให้นายฉวีไปพบยังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพฤติกรรมและส่วนประกอบคดีเพื่อเสนอขอหมายจับ
+++ขณะที่ศพของนายฉวี หลังจากใช้เครื่องมือผ่าถังและกะเทาะปูนซิเมนต์ออกได้ถูกส่งไปยังศูนย์นิติเวช สุราษฎร์ธานี เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน และเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้ว สารภาพว่าเป็นการเสียชีวิตเนื่องจากถูกทารุณกรรมซ้อมทำร้ายร่างกายต่อเนื่องหลายชั่วโมง รวมทั้งทุบตีด้วยของแข็งอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากชันสูตรอย่างละเอียดแล้ว จะส่งศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในตำบลท่าซัก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
+++หลังจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้รับโทรศัพท์ลึกลับขู่จะเอาชีวิตหากยังรื้อถอนรีสอร์ทที่ภูทับเบิกจ.เพชรบูรณ์ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ 1 ในผู้ที่ได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ ได้รายงานถึงนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงกรณีความเคลื่อนไหวการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก นอกจากนี้ยังมี นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก รวมถึงนายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า ที่ถูกข่มขู่ด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังได้ส่งเอกสารการแจ้งความของผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ และนายอำเภอหล่มเก่า ที่สถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจะทำหน้าที่ต่อไป
+++การควบคุมสถานการณ์ไวรัสซิกาในสิงค์โปร์ หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์และสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ( เอ็นอีเอ ) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าเมื่อวานเพียงวันเดียว พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มอีก 33 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 115 คน กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์และสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาที่ได้รับการยืนยันแล้ว มีจำนวน 115 คน โดยมีอยู่ 1 คนเป็นสตรีตั้งครรภ์ และเป็นรายแรกของประเทศ
+++ไปที่มาเลเซีย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิการายแรกของประเทศ เป็นสตรีที่เพิ่งเดินทางไปสิงคโปร์นาน 3 วัน เมื่อวันที่ 19 ส.ค. กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียแถลงว่า ผลตรวจพบเชื้อซิกาในปัสสาวะ โดยก่อนหน้านั้นเธอมีไข้และเป็นผื่นอยู่นาน 1 สัปดาห์หลังเดินทางกลับจากสิงคโปร์ ส่วนลูกที่อยู่ในสิงคโปร์ก็ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสซิกาเช่นกัน
+++เฮอร์ริเคนเมดาลิน ล่าสุดอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและกำลังเคลื่อนตัวไปยังเกาะฮาวาย แต่ก็ยังจะทำให้มีฝนตกหนักและกระแสลมแรง ขณะที่ ทางการท้องถิ่น เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวและสั่งปิดสำนักงาน โรงเรียน ตลอดจนถนนบางสายเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกดังกล่าวเช่นกันคาดว่าพายุจะพัดผ่านทางด้านใต้ของเกาะฮาวาย
+++สถานการณ์ที่ประเทศกาบอง หนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของทวีปแอฟริกาด้วยการมีทรัพยากรน้ำมันที่มาก เมื่อวันอาทิตย์ มีการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศอีกสมัย นายอาลี บองโก ประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้รับชัยชนะ ล่าสุด กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌอน แป็ง นักการเมืองฝ่ายค้านกาบอง ชุมนุมประท้วงและวางเพลิงอาคารรัฐสภา และบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจล เมื่อนายแป็ง พยายามจะเดินทางไปที่สำนักงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อยื่นเรื่องประท้วงผลการเลือกตั้ง โดยการเดินทางของเขามีผู้ชุมนุมจำนวนมากเดินทางไปด้วย และมีบางคนก่อความวุ่นวายขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำดับเพลิงเพื่อสลายการชุมนุม
+++ประธานาธิบดีบองโก ได้รับคะแนนสนับสนุนร้อยละ 49.8 เพื่อดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 มีวาระการทำงาน 7 ปี ส่วนนายแป็ง ได้รับคะแนนสนับสนุนร้อยละ 48.2 แต่ทั้ง 2 คนมีคะแนนต่างกันเพียง 5,594 เสียงเท่านั้น ทำให้นายแป็ง ยื่นโต้แย้งผลการเลือกตั้ง โดยอ้างหลักฐานหลายกรณี รวมถึงการที่ในพื้นที่ที่ประธานาธิบดีได้รับการสนับสนุน มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์มากถึงร้อยละ 99 นอกจากนี้การประกาศผลการเลือกตั้ง ยังทำโดยกระทรวงกิจการภายใน ไม่ใช่คณะกรรมการการ เลือกตั้ง ทำให้ตัวแทนของฝ่ายค้านที่เข้าร่วมในการนับคะแนนไม่ลงลายมือชื่อรับรองผลการเลือกตั้ง
แฟ้มภาพ