หลังการประชุมขับเคลื่อนการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 49/2559 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เชิญหน่วยงานรัฐ องค์กรศาสนาทุกองค์กร มาประชุมในเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ซึ่งประเด็นการหารือได้พิจารณา 5 แนวทาง เช่น การส่งเสริมการสนับสนุนการศึกษา,การส่งเสริมการสนับสนุนการเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้อง,การอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา,การสร้างการรับรู้ความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา,และ สร้างการเข้าใจให้สังคมเข้าใจกิจการศาสนา โดยทุกองค์กรจะต้องไปคิดเรื่องแนวทางและกลไกดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่31ตุลาคม2559 รวมทั้งจะมีการเรียกประชุมกันอีก2ครั้ง ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกองค์กรและได้รับความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นคิดว่าเจตนารมณ์ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องการให้เกิดความชัดเจนในเรื่องการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆโดยรัฐและองค์กรศาสนาก็จะรู้ว่าต้องทำอะไรร่วมกัน ทั้งในมิติการสร้างสรรค์ และ มิติการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวงการศาสนา
ส่วนการบิดเบือนคำสอนของศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกฝ่ายมองว่าต้องมีวิธีการป้องกันเรื่องแนวคิดสุดโต่งไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม โดยทุกฝ่ายอยากเห็นสังคมสงบสุข อยู่ร่วมกันได้ นายสุวพันธ์ ได้ปฏิเสธตอบคำถามความคืบหน้าการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 30 ตำแหน่งและความคืบหน้าการดำเนินคดีพระธัมมชโย