นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ(UN)เสนอรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ยอดความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซีเรียอย่างเร่งด่วนได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้าน 8 แสนคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรซีเรียทั้งหมด 22 ล้าน 3 แสนคน เพิ่มขึ้นจากการประเมินก่อนหน้า 1 ล้าน 5 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ในจำนวนนี้อาศัยอยู่กลางสมรภูมิรบในประเทศ 4 ล้าน 7 แสนคน ทำให้กระบวนการช่วยเหลือเข้าถึงลำบาก ทั้งนี้ รายงานของโครงการอาหารโลก หรือ WFP ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านอาหารของสหประชาชาติลงวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า มีชาวซีเรียราว 4 ล้าน 2 แสน 5 หมื่นคนรอรับความช่วยเหลือด้านอาหารและโภชนาการ แต่ WFP สามารถนำส่งอาหารได้เพียงร้อยละ 12 ถือว่าลดน้อยลงมาก หากเทียบกับสถิติร้อยละ 26 เมื่อเดือนเมษายน นายบัน ตำหนิทั้งรัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงว่าขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีบาร์ชาร์ อัล-อัสซัด เนื่องจากมีรายงานการปล้นสะดมภ์ขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือของสหประชาชาติ ซึ่งกำลังเดินทางไปแจกจ่ายสิ่งของในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏ ส่งผลให้ตลอดทั้งไตรมาสแรกของปีนี้ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ได้รับความช่วยเหลือเพียงร้อยละ 25 ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในขณะที่ประเทศมหาอำนายตะวันตกกำลังพยายามร่างข้อมติให้หลักประกันการจัดส่งความช่วยเหลือ รวมถึงการจัดส่งผ่านจอร์แดน อิรัก และตุรกีเข้าไปยังซีเรียด้วย