+++กรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตคดีจำนำข้าว มีการลดตัวเลขค่าเสียหายที่เรียกเก็บจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และโยนความรับผิดชอบที่เหลือทั้งหมดให้ข้าราชการที่ต้องทำตามคำสั่งของฝ่ายการเมือง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เช็กตัวเลขความเสียหาย ยืนยันท้ายที่สุด ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมของศาล ให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง พร้อมยอมรับกังวลเรื่องการโยนความรับผิดชอบให้ข้าราชการ ไม่อยากให้ข้าราชการเดือดร้อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวพัวพันระหว่างข้าราชการกับนักการเมือง แต่ท้ายที่สุดข้าราชการต้องรับผิดชอบ ซึ่งยังไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัดเพราะกำลังพิจารณาอยู่ให้ทันภายในเดือน ก.ย. เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในเดือน ก.พ. ปี 2560 จะไม่ปล่อยให้หมดอายุความ ในส่วนตัวรับผิดชอบเฉพาะเรื่องทางละเมิด ส่วนคดีอาญาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ดำเนินการไปแล้ว ย้ำว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
+++ขณะที่ วันนี้ ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้สอบสวนคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเกี่ยวกับความรั่วไหลของข้อมูลการสอบสวน และการถูกแทรกแซงการสอบสวนโดยไม่สุจริต และไม่คํานึงถึงความยุติธรรม
+++แนวโน้มสถานการณ์ข้าว นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ ไทยจะเข้าร่วมเสนอราคาข้าวขาว 25% ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดนำเข้าปริมาณ 2.5 แสนตัน ซึ่งยืนยันว่าจะสู้ในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะคำสั่งซื้อดังกล่าวจะรองรับผลผลิตข้าวใหม่ที่กำลังจะออกมา และคาดว่าฟิลิปปินส์จะมีการเปิดนำเข้าข้าวอีกหลายรอบ ส่วนอินโดนีเซียคาดว่าจะมีการเปิดนำเข้าข้าวในปลายปีด้วยเช่นกัน ขณะที่การส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ส.ค.2559 มีปริมาณ 6.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 มูลค่า 9.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6
+++พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูงานกระทรวงเกษตรฯ แทนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่มีภารกิจต้องขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ และจะเชิญพล.อ. อ.ประจิน มาที่กระทรวงเกษตรฯ เพื่อรับทราบการดำเนินงาน พล.อ.ฉัตรชัย ยอมรับช่วง 2 เดือนมานี้ได้รายงานพล.อ.ประยุทธ์ ว่า งานกระทรวงเกษตรฯ มีจำนวนมาก ขอ รมช.มาช่วยงาน 1 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากถ้าปรับครม. เมื่อไหร่จะจัดการให้ ขณะนี้มี 2-3 รายชื่อในใจ และไม่ใช่ทหารแน่นอน
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 46.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 89 เซนต์ ปิดที่ 48.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนลบ โดยมีแอปเปิ้ล อิงค์ เป็นตัวถ่วงสำคัญ ตามหลังสหภาพยุโรป(อียู) สั่งให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งนี้ จ่ายภาษีย้อนหลังในไอร์แลนด์ 13,000 ล้านยูโร แต่ยังดีที่ได้หุ้นกลุ่มธนาคารช่วยพยุงเอาไว้ ดาวโจนส์ ลดลง 48.69 จุด ปิดที่ 18,454.30 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.26 จุด ปิดที่ 2,176.12 จุด แนสแดค ลดลง 9.34 จุด ปิดที่ 5,222.99 จุด
+++ทองคำ ขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังความเห็นของรองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ย้ำให้เห็นถึงแนวโน้มของการขึ้นดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และกระตุ้นให้ดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักษาราชการแทนผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า จะเดินหน้าเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามแผน ทุกงาน ไม่น่าจะสะดุด เพราะรองผู้ว่าฯทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ สำหรับการเตรียมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในป้อมมหากาฬต้องเดินหน้าเข้ารื้อถอน ตามกำหนดเดิม คือวันที่ 3 กันยายน เริ่มจากบ้าน 13 หลังที่ยินยอมให้ กทม.เข้ารื้อถอน ส่วนที่เหลือต้องใช้วิธีเจรจาหาทางออกร่วมกัน การดำเนินงานนั้นต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย
+++เรื่องปฎิรูปตำรวจ วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แถลงการณ์ปฏิรูปองค์กรตำรวจ ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. เป็นประธาน พิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กรมคุมประพฤติ กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
+++คดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงการเลื่อนนัดสั่งคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 1 และพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2 กับพวกรวม 5 คน ฐานสมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ไปเป็นวันที่ 6 ต.ค. เนื่องจาก นายชาติพงษ์ จิรพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงานคดีนี้ มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น ประกอบกับ เอกสารในสำนวนคดีนี้และเอกสารเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งให้พนักงานอัยการพิจารณามีจำนวนมาก เนื้อหาซับซ้อน มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงมูลค่าความเสียหายจำนวนสูง พนักงานอัยการจึงต้องพิจารณาสั่งสำนวนคดีอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
+++นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และการจัดการอสังหาริมทรัพย์พื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูง
+++หลังจากที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม ชื่อเดิม นางกิมเอ็ง แซ่เตียว อายุ 62 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ พี่สาวคนละแม่กับ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ซึ่ง นางกมนทรรศน์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม หลังผู้เสียหายเข้าร้องเรียนหลายรายแล้วว่าถูกหลอก ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมขังภายในทัณฑสถานหญิงกลาง และตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน
+++พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผบช.ก. เปิดเผยว่า ชุดคลี่คลายคดีรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 2 รายคือ นายถาวร พวงประทุม อายุ 66 ปี เจ้าหน้าที่จับได้แล้วอยู่ระหว่างสอบปากคำ ส่วนอีกราย คือ นายสมศักดิ์ สิริยาคม ขณะนี้ศาลออกหมายจับแล้ว ทั้งคู่ร่วมกระทำความผิดโดยจะแต่งตัวให้คล้ายกับข้าราชการหลอกลวงให้ประชาชน หรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นหลงเชื่อถือ พล.ต.ต.สมหมาย เชื่อว่า ขบวนการนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายเนื่องจากตรวจสอบยอดเงินที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับมายังสูญหายอีกมากนับเป็น 10 ล้านบาท โดยไม่พบว่าหายไปอยู่กับใคร มีการนัดหมายประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 20 ก.ย. คาดว่าน่าจะสรุปสำนวนคดีได้
+++การติดตามคนร้ายแก๊งยุโรปตะวันออกนำไวรัสมัลแวร์ เข้ามาปล่อยในตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน โจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทยได้เงินไปกว่า 12 ล้านบาท พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 ประชุมติดตามความคืบหน้าพร้อมเปิดเผยชื่อ นายรัสตัม ชัมบาซอฟ อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย 1 ในคนร้าย เดินทางจากปักกิ่ง มาลงที่สนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 ก.ค. และบินออกจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ตำรวจได้ข้อมูลป้ายทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทั้ง 3 คัน ได้แก่ รถฮอนด้า ซีวิค สีขาว รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถโตโยต้า วีออส ล่าสุดชุดทำงานทราบชื่อคนร้ายและ เส้นทางที่ใช้ทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะออกหมายจับคนร้ายทั้งหมดได้ในเร็ว ๆ นี้ แม้คนร้ายจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่มีกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศช่วยในการติดตามคนร้าย หรือประสานตามกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
+++ปัญหารถติด พล.อ.ประยุทธ์ เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการดูแลให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหลายอย่างที่เป็นปัญหาแก้ไม่ได้ ต้องเน้นสร้างการรับรู้ของประชาชน ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสั่งทั้งหมด หากประชาชนอยากให้ดีขึ้นก็ต้องร่วมมือ ถ้ายอมเปลี่ยนแปลงก็อยู่ที่เดิม ทั้งนี้ในต่างประเทศมีการแก้ปัญหาจราจรโดยการจัดวงจรการเดินรถใหม่ แต่ประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะไม่ยินยอมกัน และมีการกำหนดให้เดินรถเลขคู่เลขคี่ แต่เราก็ทำไม่ได้อีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการจัดอันดับของสำนักข่าวต่างประเทศ ให้กรุงเทพฯ เป็นแชมป์เมืองที่รถติดที่สุดในโลก ว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าว ก็ได้สั่งการไปแล้วให้ไปหามาตรการเพิ่มเติมมา ปัญหามีอย่างเดียวคือกรุงเทพฯ แออัดเกินไป จึงต้องหามาตรการใหม่ๆ พร้อมการสร้างการรับรู้ ส่วนจะยอมได้เพียงใด ในเรื่องมาตรการจอดรถ การใช้รถ หรือการวิ่งรถที่บางเส้นต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่
+++พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ที่ปรึกษา (สบ10) ร่วมสอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ จาริกานนท์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆาตกรรมโหด น.ส.สุภาพ เดชไทย ลูกจ้าง ก่อนนำศพยัดใส่ถังไปทิ้งในเขตท้องที่ สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556 หลังจับกุมได้ที่บ้านพักย่านคลองหก จ.ปทุมธานี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถช่วยชายอายุ 17 ปี ซึ่งนายจักรกฤษณ์รับมาจากเพื่อนที่เป็นพ่อเลี้ยงของเด็กหนุ่มคนดังกล่าว มาอุปการะไว้ตั้งแต่ปี 2556 โดยนำมากักขังไว้ในบ้าน ก่อนกระทำทารุณด้วยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาทิ ใช้น้ำกรดสาดจนตาบอด ถอดฟันทีละซี่ จากนั้นจะนำหลักฐานไปเบิกเงินกับบริษัทประกันชีวิต ซึ่งทำไว้กว่า 13 บริษัท จำนวน 21 กรมธรรม์ มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท ซึ่งมีบางบริษัทที่ยอมจ่าย และบางบริษัทยังไม่ยอมจ่าย เนื่องจากไม่เชื่อว่าเด็กประสบเหตุจริง โดยพบว่าได้เงินประกันไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนในเชิงลึกว่า มีใครบ้างที่ได้รับผลประโยชน์ และมีส่วนร่วมในการกระทำของนายจักรกฤษณ์ด้วยหรือไม่