นายกฯตั้งศ.เฝ้าระวังรับมือไวรัสซิกา ปัดใช้ม.44ลดระดับยาบ้า

30 สิงหาคม 2559, 16:39น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเฝ้าระวังไวรัสซิกาว่าขณะนี้ได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามทุกภูมิภาคโดย ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าจะสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากประเทศไทย ติดอันดับประเทศที่มีการบริหารจัดการ เรื่องโรคระบาด ดีที่สุดในอาเซียน


ส่วนกรณีกระแสข่าวพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอใช้ มาตรา 44 ลดระดับยาบ้าเป็นยาเสพติดประเภท 2 นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังไม่มีการพูดถึงมาตรา 44 เพียงแต่เสนอวิธีการแก้ปัญหาตามสากล ซึ่งหลายอย่างยังไม่ตรงตามข้อเท็จจริงเป็นการเสนอเพื่อให้สังคมรับรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผู้ต้องขัง การขึ้นทะเบียนยาเสพติด แต่ถ้าคนรับไม่ได้ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี และไม่ใช่การโยนหินถามทาง แต่เพื่อสร้างการรับรู้จะโยนหินให้เมื่อยมือทำไม อย่างไรก็ตามจะหารือเพื่อให้ได้ขอยุติ ว่าจำเป็นต้องเพิ่มกฎหมายหรือไม่ และร่วมกันหาทางออกจึงขออย่ากังวล 


ส่วนการที่ประเทศไทยติดอันดับ 1  เรื่องการจราจรที่มีปัญหามากที่สุด นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องวางพื้นฐาน ระบบผังเมือง ระบบขนส่งมวลชน ไม่เฉพาะในกรุงเทพที่มีประชากรหนาแน่น โดยในต่างประเทศมีการจัดการ โดยใช้กฎหมาย เช่น การขึ้นทะเบียนรถ และให้ รถสามารถออกมาวิ่ง ได้ตามวันที่กำหนด รวมถึงหากต้องการซื้อรถจะต้องแจ้งว่ามีที่จอดรถส่วนตัวด้วย  มาตรการเหล่านี้ไม่สามารถใช้กับประเทศไทยได้ แต่ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหามาตรการ โดยอาจเป็นแนวคิดให้การวิ่งรถบางเส้นทางเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม  รวมไปถึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลควบคู่ไปด้วย แต่ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือ หากต้องการแก้ปัญหา การจราจรที่ดีขึ้น 


นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่าในเดือนกันยายนนี้ จะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียนหรืออาเซียนซัมมิท และประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20  ซึ่งได้มีการเตรียมข้อมูล ในการเข้าร่วมประชุม ในฐานะผู้นำจี 77 ส่วนการหารือทวิภาคี ของแต่ละประเทศนั้นนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ระบุว่าไทยจะร่วมหารือกับประเทศใดบ้าง เนื่องจากจะต้องดูความพร้อมของทั้งฝ่ายไทยและประเทศที่ร่วมหารือ  ส่วนตัวต้องการที่หรือกับทุกประเทศที่เข้าร่วม
ข่าวทั้งหมด

X