ประชุมครม./นายกฯพิจารณาตั้งสนช.เพิ่มเติม*

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจะเสนอ ครม. คงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ร้อยละ 7 (จากเพดานร้อยละ 10) มติ ครม.เดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ และให้ขยายออกไปอีก 1 ปี ร่วมด้วยการขยายเวลาพิจารณาเป็นแบบปีต่อปี เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวได้ร้อยละ 3.2 และไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 3.5 คาดว่าในไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก็แนะนำว่า รัฐบาลยังต้องเร่งกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนด้วยเช่นกัน

ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงฯ รวม 12 ตำแหน่งให้ที่ประชุมพิจารณา ทั้งในส่วนทดแทนการเกษียณอายุราชการและการโยกย้ายเพื่อขับเคลื่อนงานภาคการเกษตร ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันว่า มีการตรวจสอบและประเมินการทำงานของข้าราชการมาระยะหนึ่งแล้ว และการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในปีนี้ หากมีปัญหาเรื่องการทำงานก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนทันที

ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายในสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ส.ป.น.) โดยเฉพาะตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแทน พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ ที่จะเกษียณอายุราชการนั้น  ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล ส.ป.น. เตรียมเสนอชื่อ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเหลืออายุราชการ 1 ปี มาดำรงตำแหน่งแทน

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมจากภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมอบหมาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับคณะข้าราชการผู้ได้รับทุนการศึกษาจาก ม.หัวเฉียว หัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลา และรับโอวาทก่อนเดินทางไปศึกษาต่อ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี 2556-2557

นายกรัฐมนตรีมอบหมาย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่18 (ประเทศสิงคโปร์) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อรายงานสรุปผลการแข่งขัน

ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีแนวคิด และเตรียมการไว้แต่วันนี้ยังไม่ได้ตั้ง เพราะยังไม่พร้อม ยังทำงานได้ ก็เก็บไว้ก่อน

ส่วนความคืบหน้าการตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าเป็นการตั้งคณะทำงานเพิ่มเติม และกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ต้องถามว่า ถ้าลงสมัครรับสมัครเลือกตั้งแล้วได้เป็น ส.ส.จะทำอะไร หรือเป็นรัฐบาลแล้วจะทำอะไรบ้าง จะปฏิรูปประเทศอย่างไร ปฏิรูปตำรวจอย่างไร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุม สนช.เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ให้มีสมาชิกสนช.ได้ไม่เกิน 250 คน ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งเพิ่ม โดยไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสรรหา  เพราะเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ไปแล้วอีก 120 วัน หรือ 4 เดือน สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต้องหมดวาระลง จะเหลือสภาเดียวคือ สนช.ที่ต้องทำทั้งการปฏิรูปและการร่างกฎหมาย ทั้งกล่าวด้วยว่า จะกลัวอะไรกับการที่ข้าราชการที่เกษียณจะมานั่งเป็น สนช. เพราะในสนช.เดิมเองมีอยู่แล้ว

ในวันที่ 9 กันยายนนี้ กรมบัญชีกลางจะเริ่มจ่ายสวัสดิการรัฐผ่านอีเพย์เมนท์ ซึ่งนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า เป็นการจ่ายเงินสวัสดิการสังคมให้ประชาชนโดยตรง เริ่มจากการจ่ายเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง อัตราเดือนละ 400 บาท มีผู้ได้รับสิทธินี้ทั้งสิ้น 85,000 คน ใช้งบจำนวน 34 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลไปยังเงินสวัสดิการอื่นๆ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้พิการ เป็นต้น

*-*