จ.ภูเก็ตตั้งเป้าปี63ลดตายจากอุบัติเหตุต้องไม่เกิน50 คนเข้มนทท.รักษากฎจราจร

การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดภูเก็ต ในอดีตเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตติด 1 ใน 5 ของประเทศ และมีสถิติการจับกุม เขียนใบสั่งเปรียบเทียบปรับเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันแก้ปัญหานี้มานานกว่า 10 ปี เริ่มต้นใช้วิธีการพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการ และแบ่งงานกันไปทำ โดยผู้ที่ร่วมผลักดันและแก้ปัญหา จะเป็นผู้ที่อาสาสมัครทำด้วยใจ และพยายามที่จะดึงผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่ใหญ่กว่า เริ่มแก้ปัญหาเรื่องที่สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องรออนุมัติ เช่น การตัดต้นไม้ ติดไฟส่องสว่าง ติดตั้งป้ายเตือน ซึ่งผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจมาก เนื่องจากในปีที่แล้วจำนวนผู้เสียชีวิตลดลง จนขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอยู่ในอันดับที่ 17 ของประเทศ และในปี 2563 ได้มีการตั้งเป้าว่าจังหวัดภูเก็ตจะต้องมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่เกิน 50 คน สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะแบ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ตำรวจจราจรจะรับผิดชอบ, การให้ความรู้ เป็นเรื่องของกรมการขนส่งทางบก และด้านวิศวกรรมจราจร จะเป็นแขวงทางหลวงภูเก็ต ดูแล จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต. ธีระพล ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อมาถึงเมืองไทยจะไม่สวมหมวกกันน็อค ขับรถเร็ว เมาแล้วขับเหมือนคนไทย ทั้งที่อยู่ในบ้านเมืองของตัวเองจะไม่ทำแบบนั้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมเลียนแบบ ตำรวจจึงต้องเข้มงวดกวดขันในการตั้งด่านสกัดจับ หากพบว่าทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าในช่วงแรกที่เริ่มมาตรฐานนี้จะมีกระแสต่อต้านตำรวจ เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าหากเข้มงวดเกินไปนักท่องเที่ยวจะลดลง ทำให้รายได้ลดลง ซึ่งตำรวจ นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจด้วยเหตุผลและข้อมูล ทำให้ทุกวันนี้ไม่มีกระแสต่อต้านเหมือนในอดีตแล้ว นอกจากนี้ตำรวจได้ขอความร่วมมือกับบริษัทเช่ารถ ให้เข้มงวดในเรื่องการตรวจสอบใบขับขี่จากนักทองเที่ยวต่างชาติก่อนจะให้เช่ารถด้วย ซึ่งในปีที่แล้ว คณะรัฐมนตรีได้ยกให้จังหวัดภูเก็ต เป็น Smart city ของไทย สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา เกิดจากข้อมูลของตำรวจกับขนส่งไม่เชื่อมต่อกัน แม้ว่าจะมีการออกใบสั่งไปเป็นจำนวนมาก แต่จะมีผู้ที่มารับโทษ เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น และเมื่อถูกยึดใบขับขี่ ก็จะไปแจ้งความที่อื่นว่าใบขับขี่หาย เพื่อไปขอให้กรมการขนส่งทางบกออกใบขับขี่ให้ใหม่ จังหวัดภูเก็ตจึงริเริ่มที่จะให้มีการออกแบบแอพพลิเคชั่นสำหรับเชื่อมต่อข้อมูล หากเขียนใบสั่งแล้วจะป้อนข้อมูลลงในแอพพลิเคชั่น หากไม่ไปรับโทษ จะไม่สามารถต่อทะเบียน หรือทำใบขับขี่ใหม่ได้ คาดว่า 1 ปีจะเห็นผล ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สวีเดน ได้ดำเนินการในเรื่องนี้มานานแล้ว ผู้ที่ทำผิดจะไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ กับภาครัฐได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการออกนอกประเทศ จดทะเบียนสมรส ทำใบขับขี่ ฯลฯ

ทั้งนี้ ยังพบปัญหาที่หน่วยงานภาครัฐไม่สนับสนุนงบประมาณ และอุปกรณ์ที่ใช้จับกุมผู้กระทำผิดอีกด้วย โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ 7 วันอันตราย ทั้งที่จริงแล้วอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นทุกวัน และในปัจจุบันภาพรวมทั่วประเทศ พบว่าการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าปัญหาอาชญากรรมถึง 10 เท่า

...

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข