ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า หลังประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ปิดฉากลงเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะนี้ชาวบราซิล เริ่มหันมาสนใจเรื่องการไต่สวนเพื่อถอดถอนผู้นำหญิงคนแรกของประเทศคือ ประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ ที่ชี้แจงต่อที่ประชุมสว.ในวันนี้ ก่อนหน้านี้เธอถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่าทำความผิดฐานตกแต่งบัญชีก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 เพื่อปกปิดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลและเจียดงบประมาณส่วนหนึ่งไปเพื่ออุดหนุนนโยบายประชานิยมให้ขับเคลื่อนต่อไป
สำหรับการลงมติของสว.ทั้ง 81 คน จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า การชี้แจงของเธอครั้งนี้จะมีน้ำหนักฟังขึ้นหรือไม่ สว.ส่วนใหญ่แสดงความเห็นไปในทางที่เป็นผลร้ายต่อเธอและคนส่วนใหญ่คาดว่าการปรากฏตัวของเธอในวันนี้อาจจะเป็นการแถลงต่อสาธารณะชนเป็นครั้งสุดท้าย หากสภาลงมติเห็นชอบกับการถอดถอนเธอด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 หรือ 54 เสียง รองประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์ ซึ่งขณะนี้รักษาการประธานาธิบดี จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่อย่างสมบูรณ์ไปจนครบวาระของเธอคือปี 2561
ด้านนางรุซเซฟ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเป็นความพยายามแย่งอำนาจไปจากเธอโดยกลุ่มคู่แข่งทางการเมือง รวมถึงรองประธานาธิบดีเทเมอร์ ระบุว่า หากประธานาธิบดีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไปโดยไม่ได้ทำความผิดทางอาญาใดๆ โดยหลักการปกครองระบอบประธาธิปไตย เราจะไม่เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดี แต่เรียกว่าเป็นการก่อรัฐประหาร
ทีมต่างประเทศ
แฟ้มภาพ