คาดศาลรธน.พิจารณาคำถามพ่วง31ส.ค./รมว.กลาโหมสั่งสอบภาพทหารโยงนางกิมเอ็งหรือไม่/รื้อรีสอร์ทภูทับเบิกต่อพรุ่งนี้

29 สิงหาคม 2559, 19:06น.


+++ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) เตือนว่า ในวันที่ 29-30 ส.ค. อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ จ.พังงา กระบี่ ตรัง และ จ.สตูล ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวัง



+++หลังการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นายนรชิต สิงหเสนี และนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. แถลงผลการประชุมว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ได้ลงนามในเอกสาร 3 เรื่องประกอบด้วย มาตรา 272 ร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่ให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่เคยเป็นมติการประชุมกรธ.เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2559 ที่อำนาจการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นของส.ส.เท่านั้น ขณะที่ส.ว.มีหน้าที่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วง 5 ปีหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้  การแก้ไขคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติ และ เอกสารคำชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สอดคล้องกับคำถามพ่วง ทั้งนี้ ยืนยันว่า เอกสารทั้ง 3 เรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญก่อนปิดเวลาราชการแน่นอน 



+++ตามขั้นตอน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของกรธ. หากพิจารณาว่าคำร้องเป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะนำเข้าสู่วาระการพิจารณาโดยเร็ว  ปกติศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมทุกวันพุธ อีกทั้งคำร้องดังกล่าวก็ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าสู่วาระการพิจารณาในวันพุธที่ 31 ส.ค. นี้ ว่าจะรับหรือไม่รับไว้พิจารณา เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะมีเวลาพิจารณา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่รับคำร้อง



+++ศาล จะพิจารณาว่ามาตราที่มีการแก้ไขถ้อยคำใหม่มีความสอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติในประเด็นคำถามพ่วงหรือไม่ ถ้าเห็นว่าถ้อยคำยังไม่เหมาะสม ศาลก็อาจมีข้อเสนอแนะ หรือให้มีการชี้แจงจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ศาลจะไม่พิจารณามาตราอื่นของร่างรัฐธรรมนูญเพราะถือว่าไม่ได้อยู่ในคำร้อง



+++กรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ให้มีสมาชิกสนช.ได้ไม่เกิน 250 คน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการแต่งตั้งเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสรรหา เพราะเมื่อรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้ไปแล้วอีก 120 วัน หรือ 4 เดือน สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต้องหมดวาระลง จะเหลือสภาเดียวคือ สนช.ที่ต้องทำทั้งการปฏิรูปและการร่างกฎหมาย ส่วนจะคัดวิธีใดตรงนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจของหัวหน้าคสช.



+++จากการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับนางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือนางกิมเอ็ง แซ่เตียว พี่สาวของนางมณตา หยกรัตนกาญจน์ หรือ นางไก่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) กล่าวว่า แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นพี่น้องกัน แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และในทางคดีไม่พบว่าการกระทำผิดของบุคคลทั้งสองเกี่ยวข้องกัน แต่เป็นลักษณะต่างคนต่างกระทำผิด นางกิมเอ็ง มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงในการเรียกรับผลประโยชน์ โดยตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน จึงเตรียมแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการตรวจสอบยืนยันว่า นางกิมเอ็ง กระทำผิดเพียงคนเดียว ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และบริษัทเอกชน หลังมีภาพปรากฏอยู่ในงานกิจกรรมหาทุน ทั้งหมดจะต้องมีการตรวจสอบว่าถูกหลอก หรือมีเจตนาร่วมกระทำผิดหรือไม่ ยืนยันตำรวจจะเดินหน้าตรวจสอบ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบผู้ใดกระทำผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด



+++กรณีที่มีภาพนายทหารยศพลตรีและพันเอก ร่วมงานของนางกิมเอ็ง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน ขอให้รอมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนก่อน 



+++น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนจะนำเข้าข้าวจำนวนมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้ผลผลิตข้าวในประเทศลดลง ล่าสุดจะเปิดประมูลนำเข้าข้าวขาว 25% แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 2 แสน 50,000 ตัน ในวันที่ 31 ส.ค. และน่าจะเปิดประมูลนำเข้าข้าว 2 แสน 50,000 ตัน อีกรอบภายในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของไทย ในการไปเสนอราคาขายแข่งขันในตลาดฟิลิปปินส์ แต่ไทยต้องแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง คือเวียดนาม ที่ต้องการคำสั่งซื้อข้าวจากฟิลิปปินส์เช่นกัน ขณะนี้ หลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณนำเข้าข้าวมากขึ้น โดยเฉพาะฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ที่คาดว่าจะนำเข้าข้าวช่วงปลายปีนี้เช่นกัน โดยหากประเทศไทยได้คำสั่งซื้อข้าวจากประเทศผู้ซื้อดังกล่าว ก็น่าจะเป็นช่องทาง ในการรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ หรือข้าวเปลือกนาปี  ฤดูกาลผลิต 2559/2560 ที่จะทยอยออกมาช่วงปลายปีนี้ด้วย นอกจากนี้ ไทยยังมีสัญญาซื้อขายข้าวกับจีนอยู่อีก 1 ล้านตัน ที่ทำในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดส่งมอบข้าวล็อตแรก



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,544.15 จุด ลดลง 5.26 จุด มูลค่าซื้อขาย รวม 51,272.65 ล้านบาท



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 88.20 จุด ปิดที่ 22,821.34 จุด  เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีเมื่อวันศุกร์ ทำให้เกิดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 376.78 จุด ปิดที่ 16,737.49 จุด ตลาดหุ้นโตเกียว ทะยานขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากนางเยลเลน กล่าวสุนทรพจน์  สอดคล้องกับทื่ นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

+++นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชุมคณะทำงานฝ่ายปฎิบัติการ ตามมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก เพื่อซักซ้อมแผนและขั้นตอนการเข้ารื้อถอนอาคาร และสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ทเป้าหมายที่จะเริ่มขึ้นในเช้าของวันพรุ่งนี้ ขณะนี้ มีรีสอร์ท ที่รื้อถอนเองแล้วจำนวน 9 ราย และอยู่ระหว่างรื้อถอน 6 รายและอีก 3 รายไม่มีการรื้อถอน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องไปดำเนินการเอง หวังว่าการปฎิบัติการในวันพรุ่งนี้น่าจะได้รับความร่วมมือ



+++บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานอ้างสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นว่า ประชาชนในญี่ปุ่นเตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นรุนแรงอีกลูกคือไลออนร็อคที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ญี่ปุ่น ทำให้มีลมแรงและฝนตกหนักในหลายเกาะหลักๆของญี่ปุ่น โดยพายุซึ่งมีความแรงใกล้ศูนย์กลางกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะนี้เคลื่อนตัวขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอยู่ไม่ห่างจากหมู่เกาะอิสุ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว



+++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฯเตือนว่าพายุอาจจะมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคคันโต รวมถึงกรุงโตเกียวและทางภาคเหนือของประเทศในวันพรุ่งนี้ เตือนประชาชนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม ลมแรงและคลื่นทะเลสูง ส่วนในท้องที่ภาคตะวันตกของประเทศ มวลอากาศเย็นในชั้นบรรยากาศอาจจะทำให้สภาวะอากาศแปรปรวนในภูมิภาคนั้น อาจจะทำให้เกิดฝนตกหนัก คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก มุ่งสู่ภูมิภาคคันไซและโทไก ต่อไป



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X