นายกรัฐมนตรี เคาะระฆังปล่อยขบวนรถเที่ยวปฐมฤกษ์สายกรุงเทพ-นครปฐม

ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดเดินขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่และเคาะระฆังส่งสัญญาณปล่อยขบวนรถเที่ยวปฐมฤกษ์ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟฯ หัวหน้าหน่วยงาน ส่วนราชการ และคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ร่วมในพิธีเปิดและร่วมเดินทางไปกับขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ เที่ยวปฐมฤกษ์ ระหว่างกรุงเทพ-นครปฐม

 

 

 

 

รถโดยสารชุดใหม่นี้ ถือเป็นรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ในรอบ 20 ปี ภายในตู้โดยสารมีการเปลี่ยนแปลงให้ทัยสมัย เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการมีความสะดวกสบาย รถไฟขบวนพิเศษแต่ละเที่ยวจะประกอบไปด้วยรถ power car ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟให้รถโดยสารทั้งขบวน ทั้งรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้น 1 ระดับเฟิร์สคลาสและชั้นสองแบบนั่งและนอน และสำหรับผู้โดยสารที่ใช้รถวีลแชร์ ซึ่งภายในรถมีระบบอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ติดกล้องวงจรปิด ปุ่มเรียกพนักงานฉุกเฉิน ติดตั้งระบบสัญญาณ wifi ติดตั้งจอแอลอีดีพร้อมเครื่องขยายเสียง ห้องอาบน้ำ ซึ่งโดยไฟขบวนนี้สามารถทำควาทเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากใช้ทางคู่กับโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ที่แล้วเสร็จ  จะสามารถเดินรถสู่จุดหมายปลายทางได้เร็วขึ้น 3 ชั่วโมง

 

สำหรับรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน ของการรถไฟฯ สอดคล้องกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ วงเงินลงทุน 176,806 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 วงเงินลงทุน 4,981 ล้านบาท โดยมีพิธีรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์รอบแรก 39 คัน จากทั้งหมด 115 คัน จากบริษัท CRRC (China Railway Rolling Stock Corporation) หรือ CRC (Changchun Railway Vehicles Company Limited) บริษัทคู่สัญญา เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 และมีการทดสอบการเดินรถทั้งระยะใกล้ และระยะไกล เพื่อให้บริการเป็นขบวนรถด่วนพิเศษ เส้นทางกรุงเทพ -เชียงใหม่ ได้เป็นเส้นทางแรกในเดือนตุลาคมนี้ต่อไป และ การรถไฟฯ จะนำขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่มาวิ่งเป็นขบวนรถด่วนพิเศษ ใน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพ–เชียงใหม่ กรุงเทพ-อุบลราชธานี กรุงเทพ-หนองคาย และกรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ ไป/กลับวันละ 2 ขบวนต่อวัน รวม 8 ขบวน ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ ประมาณ 9 แสนคนต่อปี มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 785 ล้านบาท (ปีที่ 1) อายุโครงการ 25 ปี

 

 

....

 

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี