ชาวป้อมมหากาฬ เสนอกทม.แบ่งพื้นที่ชุมชนอยู่คู่กับสวนสาธารณะ

หลังกรุงเทพมหานคร(กทม.) ยืนยันจะเดินหน้ารื้อชุมชนป้อมมหากาฬ นายพรเทพ บูรณบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีชาวบ้านในชุมชน จำนวน 12 หลัง ที่แจ้งความประสงค์ขอย้ายออกไปจากพื้นที่ โดยกรุงเทพมหานครจะเข้ามา ในวันที่ 3 กันยายนนี้ ส่วนอีก 40 กว่าหลังที่ยังยืนยันว่าจะขออยู่ในพื้นที่ชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาชุมชนร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยมีข้อเสนอ 5 ข้อ ประกอบด้วย ชาวชุมชนจะมีการจัดเวรยาม เพื่อรักษาความปลอดภัย ขออาสาดูแลรักษาความสะอาดสวนสาธารณะที่กรุงเทพมหานครจะสร้างขึ้น จะพัฒนาชุมชนเพื่อเป็นตัวอย่างของชุมชนที่สามารถอยู่กับสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานครจะมีรายได้จากการเก็บค่าเช่าที่ชุมชน และชุมชนจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ที่ชาวชุมชนยืนยันไม่ไปไหน เนื่องจาก ไม่รู้จะย้ายไปไหน เพราะที่นี่ชาวชุมชนอยู่มาหลายสิบปี ด้วยความผูกพันธ์ รวมทั้งเพื่อทำให้สวนสาธารณะมีชีวิต โดยเชื่อว่าคนกับโบราณสถาน สามารถอยู่ร่วมกันได้ ตรงกันข้ามหากไม่มีคนอยู่ พื้นที่แห่งนี้ก็จะรกร้าง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความรู้สึกหวาดระแวงและกังวลใจที่กรุงเทพมหานครจะเข้ามารื้อบ้าง แต่ทุกวันนี้ชาวชุมชนยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติ พร้อมอยากเสนอกับทางกรุงเทพมหานคร ในการแบ่งสัดส่วนในชุมชน 1 ไร่ เพื่อให้ชาวชุมชนอยู่

ด้านกรุงเทพมหานคร เตรียมพัฒนาพื้นที่ที่มีการรื้อถอนเป็นสวนสาธารณะ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและจะเป็นการอนุรักษ์บ้านเรือนไม้โบราณ  รวมทั้งจะมีการปรับปรุงพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งระบุว่า บ้านเรือนในป้อมมหากาฬ มีจำนวน 56 หลังคาเรือน ที่ต้องรื้อย้ายออกจากพื้นที่  มี10กว่าหลังคาเรือนเรือน ที่ประชาชนเข้าใจและยินยอมย้ายออก กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จะเข้าดำเนินการรื้อย้ายในวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ ส่วนบ้านเรือนที่เหลือกรุงเทพมหานครจะใช้หลักสันติในการเจรจากับประชาชน เพื่อย้ายออกจากพื้นที่ และเร่งการ รื้อย้าย กำหนดแผนการรื้อย้าย บ้านเรือนทั้งหมดภายในป้อมมหากาฬ ต้องดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปลายปี 2559 นี้

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม