การติดตามกลุ่มคนร้ายต่างชาติ โจรกรรมเงินในตู้เอทีเอ็ม(ATM)ของธนาคารออมสิน 21 เครื่อง ในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร สูญเงินไปกว่า 12,291,000 บาท วันนี้ พลตำรวจเอกปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ.10 ลงพื้นที่ ตรวจหนึ่งในจุดเกิดเหตุ ของกรุงเทพมหานคร บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์ ข้างซอยวิภาวดี 44 พลตำรวจเอกปัญญา กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อมาดูลักษณะจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ได้เข้ากดเงินในพื้นที่นี้ ถึง 3 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 21.47 น. และกลับมาอีกครั้งในเวลา 22.12 น. โดยใช้เวลากดเงินทั้งสองรอบ 3 นาที ส่วนในครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 20.49 - 20.51 น. กวาดเงินไปได้ 560,000 บาท ขณะนี้ยังไม่ได้รับภาพจากล้องวงจรปิดในพื้นที่นี้ แต่ได้รับภาพจากพื้นที่ บริเวณห้างแมคแวลู สุขุมวิท 23 เชื่อว่า จากจุดบริเวณนี้ คือ ข้างซอยวิภาวดี 44 คนร้ายได้ไปกดเงินต่อที่ซอยสุขุมวิท 23 ในเวลา ประมาณ 03.00 น. ซึ่งจากกล้องวงจรปิด คนร้ายใช้เวลากดเงินประมาณ 4 นาที
ทั้งนี้ จากภาพพบว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ คาดว่า อาจจะเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและมาก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงตรงจุดนี้ เนื่องจากใช้เวลาก่อเหตุในเวลา 20.00—21.00น. ซึ่งต่างจากพื้นที่อื่น ที่ก่อเหตุในช่วงหลังเที่ยงคืน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีประมาณ 4คน โดยมีการศึกษาข้อมูลระบบตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ทั้งนี้จากการตรวจสอบ คาดว่าน่าจะมีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง แต่ยังไม่มั่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังธนาคารออมสิน โดยธนาคารขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบความปลอดภัยของธนาคาร และหลังจากนี้ธนาคารจะมีการเขียนโปรแกรมขึ้นมา เพื่อป้องกันการโจรกรรมทางการเงิน โดยจะเสร็จสิ้นภายในสามสัปดาห์ หลังจากนี้ พลตำรวจเอกปัญญา จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จ.พังงา และจ.ภูเก็ต ต่อไป คาดว่า จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม