โรงเรียนสอนขับรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คอยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ แต่ไม่มีเวลาว่างไปอบรมและสอบ ที่กรมการขนส่งทางบก เพราะกระบวนการขอเข้าอบรมและสอบของกรมการขนส่งทางบก จะต้องมีการจองคิวล่วงหน้าหลายเดือน จากปัญหาสถานที่ เจ้าหน้าที่ ผู้อบรมของกรมการขนส่งทางบก ไม่เพียงพอที่จะรองรับจำนวนคนได้
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้มีนโยบายที่จะอนุญาตให้เอกชนเปิดสถานที่ฝึกอบรมและสอบใบขับขี่ เพื่อให้สอดรับกับแนวนโยบายของกรมการขนส่งทางบกที่จะยกเลิกใบอนุญาตขับขี่รถตลอดชีพ แต่จะให้เป็นการต่อใบขับขี่ทุกๆ 5 ปี และทุกครั้งที่จะมาต่อใบขับขี่จะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายและทดสอบขับรถ เพื่อป้องกันปัญหาผู้ขับขี่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย จนนำไปสู่ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจะร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาหลักสูตรการอบรมให้เข้มงวด ทันสมัยมากยิ่งขึ้น และให้ภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการออกใบขับขี่อย่างเต็มตัว โดยกรมการขนส่งทางบก จะเป็นเพียงผู้ควบคุมหลักสูตรเท่านั้น
ในปัจจุบันนี้ สถานฝึกอบรมและออกใบขับขี่ของภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก โดยผู้ที่ต้องการความสะดวกต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยขั้นตอนของการสอบใบขับขี่ของโรงเรียนสอนขับรถ จะต้องมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนจะเรียนขับรถ หลังจากนั้นจะเข้าสู่การเรียนขับรถ 10 ชั่วโมง อบรม 5 ชั่วโมง และจะเป็นการสอบขับ เมื่อผ่านครบทุกขั้นตอนแล้วทางโรงเรียนจะออกใบรับรองให้ เพื่อไปยื่นให้กรมการขนส่งทางบกออกใบขับขี่ กระบวนการทั้งหมดนี้ จะต้องแลกกับการเสียเงินไม่น้อยกว่า 5,000 บาท
นางสาวศิริวรรณ มาดี เจ้าของโรงเรียนธนาสอนขับรถยนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นิยมมาสอบใบขับขี่ที่โรงเรียนสอนขับรถ เนื่องจากสะดวก ไม่ต้องจองคิวหลายเดือน โดยการอบรมทางโรงเรียนจะเข้มงวดกวดขันเป็นอย่างมาก ในการอบรมจะมีสารวัตรจราจรและเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกมาเป็นผู้อบรม ให้ผู้ขับขี่ตระหนักในเรื่องวินัยจราจรให้มาก สิ่งสำคัญของการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ คือ จะทำอย่างไรให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงวินัยจราจรให้ได้มากที่สุด การออกใบสั่งเปรียบเทียบปรับของตำรวจจราจร ถือเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของผู้ขับขี่รถได้เป็นอย่างดี ... อีกทางหนึ่ง ?
ผสข. สมจิตร์ พูลสุข