ผบ.ตร.มอบ รองผบ.ตร.สอบพฤติกรรมผู้พันตึ๋ง ขยายผลผู้เกี่ยวข้องด้วย

ภายหลังพ.ต. เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง อดีตผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษ จากกรมราชทัณฑ์ ผิดเงื่อนไขกรมควบคุมความประพฤติ และมีพฤติกรรมข่มขู่ในพื้นที่จันทบุรี เมื่อวันที่18 สิงหาคม 2559 จนถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวและส่งกลับไปรับโทษที่เหลือเป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวจะต้องแยกเป็น 3 ส่วน คือ การผิดเงื่อนไขของกรมควบคุมความประพฤติ การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีอาญา รวมทั้งพฤติกรรมของผู้พันตึ๋ง เข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมาย ให้พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเข้าข่ายความผิด หรือพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด และยืนยันว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะไม่ยอมให้บุคคลใดมามีอิทธิพลสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน

ส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์พื้นที่จังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นกลุ่มใด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่

ส่วนมีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งพบรถพยาบาลต้องสงสัย ที่คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายขโมยมา ก่อนนำมาดัดแปลงเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมระบุว่า ผู้ต้องหามักจะหาช่องทางหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อก่อเหตุความไม่สงบขึ้น 

ขณะที่ ความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ เปิดเผยว่า ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเพียวรายเดียว คือ นาย รุสลัน ไบมะ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุความสงบในพื้นที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข