นายกฯเตรียมมอบเงินเกือบ70ล้านให้นักกีฬาโอลิมปิก/สนช.หารือเพิ่มจำนวนสมาชิก/ตร.ประชุมหามือแฮกตู้ออมสิน

+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะพิจารณาวาระเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 6 เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิก สนช. จากไม่เกิน 220 คน เป็นไม่เกิน 250 คน จะพิจารณา 3 วาระรวด เพื่อตรงตามความต้องการของรัฐบาล ที่ต้องการเร่งรัดให้ สนช. มาทำหน้าที่พิจารณากฎหมายให้เร็วขึ้น

+++ส่วนกรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตามคำถามพ่วงโดยช่วง 5 ปีแรกให้ ส.ว.มีอำนาจเพียงแต่ร่วมโหวตนายกฯเสนอชื่อเองไม่ได้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ย้ำว่า การทำงานของ กรธ. ได้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามตัวอักษรที่บัญญัติไว้ในคำถามพ่วง กรธ.ไม่ได้ทำเกินไปกว่าที่กำหนดไว้ในคำถามพ่วง มั่นใจว่าการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่าง กรธ.และ สนช.ในอนาคต โดยเฉพาะการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญจำนวน 10 ฉบับที่ต้องทำร่วมกัน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นต่างกันทางกฎหมาย และความคิดเห็นแตกต่างกันนี้จะมีศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ตัดสิน  

+++ความคืบหน้าเหตุระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 37 คน  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า มีความคืบหน้าที่ จ.ตรัง ยืนยันว่าคดีไม่มีทางตันแน่นอน การก่อเหตุในแต่ละพื้นที่ 7 จังหวัด มีความเชื่อมโยงกัน การออกหมายจับผู้ต้องหาที่ จ.ตรัง  หากมีหลักฐานจะออกหมายจับทันที จากการติดตามล่าสุดพบว่าใกล้จะออกหมายจับได้อีกในเร็วๆ นี้ แต่ต้องรอให้หลักฐานชัดเจนก่อน

+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึง การออกหมายจับนายรุสลัน ใบมะ อายุ 35 ปี ชาว จ.สงขลา เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม แจ้งข้อหาพยายามวางเพลิง และมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายรุสลันเป็นผู้ร่วมขบวนการในระดับปฏิบัติการ ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานที่ชัดเจน จนสามารถออกหมายจับได้ โดยผู้ที่ถูกออกหมายจับเป็นแนวร่วมผู้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การสืบสวนพบว่ายังมีความเคลื่อนไหวอยู่ภายในประเทศ

+++คดีใหญ่ที่มีผลแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเอกฉันท์พิพากษาให้จำคุก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือหมอเลี้ยบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ไม่รอลงอาญา เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัว นพ.สุรพงษ์ขึ้นรถตู้เพื่อไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ รับโทษตามคำพิพากษา ส่วนนายไกรสร พรสุธี อดีตปลัดกระทรวงไอซีที และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ และอดีตปลัดกระทรวงไอซีที ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 2-3  สั่งจำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 2 หมื่นบาท พิจารณาแล้วจำเลยทั้งสองเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจในการอนุมัติแก้ไขสัญญาดังกล่าว โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนดคนละ 5 ปี

+++คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1-3  ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นพ.สุรพงษ์ จำเลยที่ 1 อนุมัติให้แก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียม โดยให้บริษัทชิน แซทฯ ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นบุคคลสัญชาติไทยจากร้อยละ 51 ให้เหลือร้อยละ 40 ทำให้เกิดความเสี่ยงในการครอบงำกิจการของชาวต่างชาติที่จะมีผลต่อกิจการโทรคมนาคม ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติ และไม่ได้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีด้วย

+++การติดตามคดีตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินถูกแก๊งมิจฉาชีพแอบติดตั้ง Malwareเข้าตู้เอทีเอ็มยี่ห้อเอ็นซีอาร์ (NCR) ของธนาคาร ในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคใต้ และโจรกรรมเงินออกไป จากเอทีเอ็มจำนวน 21 เครื่อง  สร้างความเสียหาย มูลค่า 12,291,000 ล้านบาท บ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นประธานการประชุมติดตามเรื่องนี้ หลังมีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด และ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานตำรวจภูธรภาค 7 และ 8 ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่คนร้ายเช่ารถ โดยจะตรวจสอบหาเจ้าของหรือบริษัทรถเช่า จำนวน 3 คัน ประกอบด้วย รถยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค, โตโยต้า วีออส และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไม่ระบุสีและทะเบียน  เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย

+++เช้านี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

+++น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และตัวแทนสมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาข้าวที่เกิดขึ้น โดยได้ขอความร่วมมือผู้ส่งออกข้าวและโรงสี ให้หยุดพฤติกรรมที่จะทำให้ตลาดข้าวเกิดความปั่นป่วน เพราะมีการคาดการณ์สถานการณ์ตลาดไปในทางลบ จนส่งผลกระทบต่อราคาข้าวปรับตัวลดลง และยังพบว่ามีพฤติกรรมการขายตัดราคากัน ซึ่งยิ่งสร้างผลกระทบต่อราคาข้าว ทั้งที่ปัจจัยภายนอกไม่มีแรงกดดันเลย ไม่ว่าจะเป็นสต็อกข้าวโลก ผลผลิตข้าวของคู่แข่งที่มีแต่ลดลง ขณะที่ความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น   ทั้งนี้ หากยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว กระทรวงฯ จะนำมาตรการกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำมาใช้ เพื่อดูแลราคาข้าวในประเทศให้กับเกษตรกร แต่ยืนยันว่าจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะดำเนินการ เพราะต้องการให้ราคาข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 56 เซ็นต์ ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 62 เซ็นต์ ปิดที่ 49.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนได้แรงหนุนจากรายงานข่าวสมาชิกโอเปก จะหารือตรึงกำลังผลิตเพื่อควบคุมอุปทานที่ล้นตลาด

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ไม่กี่วันก่อนหน้าจะมีถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันนี้ ที่อาจบ่งชี้ถึงทิศทางนโยบายการเงินของธาคารแห่งนี้ ดาวโจนส์ลดลง 33.07 จุด  ปิดที่ 18,448.41 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.97 จุด ปิดที่ 2,172.47 จุด แนสแดคลดลง 5.49 จุด ปิดที่ 5,212.20 จุด

+++ราคาทองคำ ขยับลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนครั้งใหม่ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,324.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ อินสตราแกรม vj_ja ซึ่งเป็นของ จ๋า วีรนุช ทองมี  วีเจและดาราสาวชื่อดัง ได้มีการโพส์รูปสีขาว ลักษณะแสดงความรู้สึกสูญเสีย หรือ ความว่างเปล่า โดยมีแฟนคลับและบุคคลที่รู้จักเข้าไปแสดงความรู้สึกเสียใจและไว้อาลัยให้แก่ จูน กอปรบุญ ทองมี น้องสาวของวีเจจ๋า ที่เพิ่งเสียชีวิตไปจากเหตุตกลงมาจากอาคารสูง ลานจอดรถของโรงหนังย่านรัชโยธิน นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ข้อความให้กำลังใจวีเจจ๋า กันเป็นจำนวนมาก  ขณะเดียวกัน ในเฟซบุ๊ก June Korbboon Thongmee ซึ่งเป็นของ จูน กอปรบุญ ทองมี ผู้เสียชีวิต ต่างก็มีประชาชนเข้าไปแสดงความอาลัยกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน

+++พีธีแห่เฉลิมฉลองความสำเร็จนักกีฬาโอลิมปิกไทย ที่ทำผลงานในรีโอเกมส์ ด้วยการคว้าอันดับ 35 บนตารางเหรียญ ทำได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง และนักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญ รวมทั้งหมด 54 คน พร้อมด้วยสตาฟโค้ชและเจ้าหน้าที่ โดยขบวนแห่จะออกจากการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมากเวลา 15.00 น. ไปตามถนนรามคำแหง – ถนนพระราม 9 – ดินแดง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – พญาไท – เพชรบุรี – ยมราช ถึงทำเนียบรัฐบาล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

+++รูปแบบขบวนจะมีรถตำรวจท่องเที่ยวนำ 1 คัน ตามด้วยรถประชาสัมพันธ์, รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์ 60-80 คัน, รถกลองยาว, รถผู้สื่อข่าว, รถยนต์เปิดประทุน 6 คัน (นักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัล จำนวน 6 คน), รถขบวน 8 คัน, รถบัสเปิดประทุน 2 คัน, รถบัสปรับอากาศ, รถพยาบาล และรถตำรวจท่องเที่ยวปิดท้ายขบวน 1 คัน เริ่มตั้งขบวน 14.30 น. ออกสตาร์ท 15.00 น

+++เมื่อมาถึง ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีมอบเงินรางวัลแก่นักกีฬา สตาฟโค้ช สมาคมกีฬาฯ โดยคณะกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีมติเห็นชอบอนุมัติให้การสนับสนุนเงินรางวัลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 แบ่งเป็นนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล จำนวน 65 ล้านบาท โดยเหรียญทอง เหรียญละ  12 ล้านบาท, เหรียญเงิน  เป็นเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท และยังอนุมัติสนับสนุนเงินกรณีพิเศษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาไม่ได้รับเหรียญรางวัล จำนวน 48 คน คนละ 1 แสนบาท รวมเงินรางวัลกว่า 69.8 ล้านบาท

+++นักกีฬาที่ทำเหรียญรางวัลได้ ยกน้ำหนัก ได้แก่ น.ส.โสภิตา ธนสาร 1 เหรียญทอง, น.ส.สุกัญญา ศรีสุราช 1 เหรียญทอง, น.ส.พิมศิริ ศิริแก้ว 1 เหรียญเงิน, นายสินธุ์เพชร์ กรวยทอง 1 เหรียญทองแดง และ กีฬาเทควันโด ได้แก่ นายเทวินทร์ หาญปราบ 1 เหรียญเงิน, น.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ 1 เหรียญทองแดง