ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
+++การโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธ.ออมสิน จำนวน 21 เครื่อง ใน 6 จังหวัดใหญ่ รวมเป็นเงินกว่า 12 ล้านบาท โดยคนร้ายใช้โปรแกรมมัลแวร์โจมตีตู้เอทีเอ็มยี่ห้อเอ็นซีอาร์ ระหว่างวันที่ 1-8 ส.ค.ที่
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เผยว่า กระทรวงการคลังสั่งให้สถาบันเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่งเข้มงวดและมีมาตรการดูแลเรื่องระบบไอทีของแต่ธนาคารอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์จากกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาโจรกรรมเงินออกจากตู้เอทีเอ็มเหมือนกับที่เกิดกับธนาคารออมสิน ส่วนของธนาคารออมสิน กระทรวงการคลังสั่งการให้ออกมาตรการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินว่าระบบของธนาคารมีความปลอดภัย แม้ว่าการถูกโจรกรรมที่ผ่านมาไม่ได้กระทบผู้ฝากเงินก็ตาม คาดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) ที่กระทรวงการคลังดำเนินการอยู่ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
+++ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มมิจฉาชีพแฮกระบบตู้เอทีเอ็มออมสิน 21 ตู้ และขโมยเงินออกไปได้ 12.29 ล้านบาท ว่า หลังจากนี้ธนาคารจะเชิญบริษัทประกันเข้ามาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งประสานบริษัทเจ้าของตู้เอทีเอ็ม เอ็นซีอาร์ ของประเทศสกอตแลนด์ เพื่อปรับปรุงระบบและพัฒนาระบบตู้เอทีเอ็มให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาแฮกเกอร์ระบบอีก เช่น การพัฒนาระบบให้มีความทันสมัย เพิ่มโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและมัลแวร์ ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น
+++ด้านดร.วิเทศ เตชางาม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารขอให้ประชาชนมั่นใจระบบรักษาความปลอดภัยในการใช้บริการจากเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งทุกธนาคารต่างให้ความสำคัญ ธนาคารมีเครื่องเอทีเอ็มยี่ห้อ NCR อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งดำเนินการลงโปรแกรมเพื่อป้องกันโปรแกรมที่แปลกปลอม เช่นเดียวกับตู้เอทีเอ็มยี่ห้ออื่นๆ และที่ผ่านมาหากเกิดเหตุการณ์ทุจริตในระบบเอทีเอ็มทั้งในประเทศและต่างประเทศ ธนาคารและบริษัทผู้ผลิตเครื่องเอทีเอ็มและบริษัทเจ้าของซอฟต์แวร์ จะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสาเหตุและวิธีป้องกัน นอกจากนี้ยังได้แยกระบบเอทีเอ็มออกจากระบบคอมพิวเตอร์หลัก ที่เก็บข้อมูลด้านเงินฝากและสินเชื่อของลูกค้า จึงขอให้ประชาชนสบายใจและมั่นใจในการใช้บริการ
+++พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.กล่าวว่า การโจรกรรม โดยใช้โปรแกรมมัลแวร์ ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะไทยมีเทคโนโลยีเพื่อให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แพร่หลาย แต่ยังขาดหน่วยงานกลางที่จะตอบโต้สถานการณ์แบบทันท่วงที จนอาจทำให้แฮกเกอร์เห็นช่องว่างตรงจุดนี้ โจมตี สถาบันการเงิน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปราะบางที่สุด และมีทรัพย์สินมาก อีกทั้งยังเข้าถึงได้ง่ายมาก
+++พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้สืบสวนคดีนี้มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนจะมีคนไทยเกี่ยวข้องหรือไม่กำลังตรวจสอบอยู่ จะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันที่ 26 ส.ค.นี้ จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ 5 คน ได้เดินทางออกจากไทยไปแล้ว แต่บางส่วนพร้อมเงินของกลางน่าจะยังอยู่ในไทย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งทางอากาศ ตามสนามบินทุกแห่ง และตามแนวชายแดน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกต รวมถึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ ช่วยหาข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็น ชาวยุโรปตะวันออกพักอาศัย ซึ่งได้ประสานหาข้อมูลทั้งชื่อ-นามสกุล ขณะเดียวกันได้ประสานทูตตำรวจรัสเซียประจำประเทศไทย ให้ช่วย ตรวจสอบ ตำหนิ รูปพรรณ ประวัติอาชญากร ในระบบของตำรวจสากลอีกทางหนึ่งอาจจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบต่อไป
++ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ประจำเดือนกรกฎาคม ต่ำสุดรอบ 9 เดือน เหตุส่งออกชะลอตัว คาดทั้งปีติดลบร้อยละ 2 เป็นห่วงค่าเงินบาทนายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวถึงการส่งออกในช่วง 7 เดือน คาดว่าจะติดลบ 2.35% และทั้งปีคาดว่าจะติดลบ 2% เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรในตลาดโลกยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย รวมถึงการส่งออกรถยนต์, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยังทรงตัว ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรเข้ามาดูแลไม่ให้ค่าบาทแข็งค่ากว่าภูมิภาค และไม่ควรจะต่ำไปกว่าระดับ 34.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เนื่องจากค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่า ไม่ได้มาจากปัจจัยเศรษฐกิจ แต่มาจากเงินทุนไหลเข้า
+++ด้านการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) นั้น รัฐบาลไม่ควรเร่งรีบ ควรจะไปส่งเสริมให้เกิดอีก 5-10 ปีข้างหน้ามากกว่า เพราะสิ่งที่จะกระทบมากคือผู้ประกอบการชิ้นส่วนไทยจะตายก่อน เนื่องจากรถ EV เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและใช้อะไหล่น้อยมาก จึงต้องมีเวลาปรับตัว
+++นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะเสนอแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2560 มูลค่ากว่า 1.56 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา แบ่งออกเป็นการกู้หนี้ใหม่ วงเงิน 6.14 แสนล้านบาท เป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ที่เหลือเป็นการกู้เพื่อการลงทุนของหน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ เช่น การกู้เงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อไปสร้างรถไฟฟ้าในเขตเมืองและปริมณฑล วงเงิน 5.8 หมื่นล้านบาท เป็นต้น โดยจะเป็นการกู้ภายในประเทศประมาณ 90% ที่เหลือเป็นการกู้เงินจากต่างประเทศ
+++ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้จับกุม นายสยาม เทืองผล อายุ 19 ปี ชาวจ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายสยามใช้สำเนาบัตรประชาชนปลอมของนายพันธุ์สุธี มีลือกิจ อายุ 28 ปี พ่อค้าร้านประดับยนต์ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปขอซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิมที่ร้านทรูช้อป สาขาเมกา บางนา ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งคอลล์เซ็นเตอร์เพื่อขอเปลี่ยนรหัสผ่านบริการ K-Cyber Banking ธนาคารกสิกรไทย แล้วทำการโอนเงินจากบัญชีนายพันธุ์สุธี 3 ครั้ง รวม 986,700 บาท ไปยังบัญชี นายสุริไกร อนุมาตย์ สาขาโรบินสันราชบุรี ที่คนร้ายเตรียมไว้ ก่อนลงมือถอนเงิน และโอนเงินจนหมด ก่อนหน้านี้ นายพันธุ์สุธีได้ถูกกลุ่มคนร้ายทำทีเป็นสั่งซื้อสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนขอหลักฐานหน้าบัตรประชาชน อ้างว่าเป็นการซื้อครั้งแรกเพื่อความมั่นใจ นายพันธุ์สุธีจึงส่งภาพหน้าบัตรประชาชนโดยปกปิดเลขที่บัตรประชาชน 13 หลักเอาไว้ และกลุ่มคนร้ายยังให้นายพันธุ์สุธีสมัครบริการ K-Cyber Banking เพื่อเอาไว้รับเงินโอนอีกด้วย ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะเงียบหายไป แล้วทำการทุจริตเพื่อขโมยเงินจากบัญชีนายพันธุ์สุธีดังกล่าว ในวันนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะมีการแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในเวลา 10.00 น.
+++บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อสถานีลงร้อยละ 50 เหลือสถานีละ 1 บาท จากเดิมค่าโดยสารต่อสถานีละ 2 บาท แต่ยังคงอัตราค่าโดยสารแรกเข้าไว้ที่ 14 บาท หากรวมค่าโดยสารตลอดสายจำนวน 16 สถานี ราคาจะลดลงเหลือ 29 บาท จากเดิมราคาอยู่ที่ 42 บาท และหากเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สุดสายปลายทางที่สถานีหัวลำโพง ราคาจะอยู่ที่ 54 บาท จากเดิมราคาอยู่ที่ 70 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป จนกว่าการเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าระหว่างช่วงสถานีบางซื่อ และเตาปูนจะแล้วเสร็จ โดยผู้โดยสารที่จะได้รับการลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะต้องใช้บัตรเอ็มอาร์ที พลัส (MRT Plus) เท่านั้น และหากบัตรเอ็มอาร์ที พลัส สำหรับนักเรียนและนักศึกษา จะได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นอีก 10% จากอัตราค่าโดยสารที่ลดแล้ว ส่วนบัตรโดยสารชนิดเหรียญจะไม่ได้รับการลดอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากเป็นการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บัตรเอ็มอาร์ที พลัสมากขึ้น mujประชุมยังได้เห็นชอบลดอัตราค่าจอดรถ ในบริเวณอาคารจอดและจรของสถานี 3 แห่ง คือ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ อาคารจอดรถสถานีสามแยกบางใหญ่ และอาคารจอดรถสถานีคลองบางไผ่ ลง 50% เหลือ 5 บาท/ 2 ชั่วโมง (ชม.) จากเดิม 10 บาท/ 2 ชม. และอัตราค่าโดยสารรายเดือน เหลือ 500 บาท จากเดิม 1,000 บาท ซึ่งจากมาตรการที่ออกมา รฟม.ได้คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้น 30% จากจำนวนผู้โดยสารที่มาบริการในช่วงแรก จำนวน 20,000 คน