ที่ประชุมขับเคลื่อนการบริหารประเทศเร่งปฎิรูปงานด้านความมั่นคง

24 สิงหาคม 2559, 14:06น.


ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม พล.ต. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการปฏิรูประบบงานความมั่นคงโดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ เนื่องจาก การปฏิรูปตำรวจอยู่ในบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งได้กำชับให้มีความชัดเจนในปี 2560 และต้องมีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และต้องสอดคล้องกับคณะกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)กำหนดไว้เกี่ยวกับเรื่องการกำหนดแนวทางปฏิรูป ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้เสนอแผนการปฏิรูปตำรวจไว้แล้ว และได้สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งการปฏิรูปงานด้านข่าวกรองพลเอกประวิตร ถือว่าต้องรีบดำเนินการเร่งด่วนให้ครอบคลุมการทำงานทั่วประเทศ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ต้องบูรณาการร่วมกัน โดยเฉพาะสำนักงานข่าวกรองกับ สภาความมั่นคงแห่งชาติต้องร่วมกันดำเนินการโดยด่วน พลเอกประวิตร ก็ได้กำชับในที่ประชุมไปแล้ว

ส่วนในที่ประชุมกระทรวงแรงงาน เสนอให้มีการกำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามต่างด้าวดำเนินการ รัฐบาลคำนึงถึงอาชีพที่คนไทยต้องสงวน โดยได้เสนอให้อาชีพนวดแผนไทย เป็นอาชีพที่ต้องสงวนให้แก่คนไทย ขณะนี้ ได้ส่งข้อกำหนดดังกล่าว ให้กระทรวงแรงงานลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อดำเนินการบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ด้านพันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าระบบตั๋วร่วมในการเดินทางด้วยรถโดยสาร เรือโดยสาร รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ว่า ล่าสุดคณะกรรมการจัดการระบบตั๋วร่วมมีมติเห็นชอบให้มีผู้รับผิดชอบ และมีการเจรจาผู้ที่มีความพร้อมเข้าร่วมในระบบดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งการจัดทำระบบบริหารจัดการตั๋วร่วมขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในเดือนกันยายน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จะเสนอโครงสร้างระบบตั๋วร่วมทั้งหมดต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติ ก่อนจัดตั้งบริษัทจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมแบบองค์กรถาวร และจะมีการจัดทำพ.ร.บ.หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2560



ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและข้อเรียกร้องของกลุ่มประมงโพงพาง ในจังหวัดสงขลาและจันทบุรีที่ยังมีปัญหา หลังรัฐบาลรื้อถอนเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย พันเอกหญิงจันทร์ กล่าวว่า ในเรื่องการรื้อถอนนั้นยังมีความจำเป็นตามข้อกฎหมาย แต่ข้อสรุปในการประชุมวันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะหาแนวทางส่งเสริมการประกอบอาชีพให้กลุ่มประมงโพงพาง เช่น จัดสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือประมงที่ถูกกฎหมาย และส่งเสริมอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามบริเวณชายฝั่ง นอกจากนี้ พลเอกประวิตร ได้สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องไปติดตามข้อมูลความเดือดร้อนที่แท้จริงของชาวประมงโพงพาง เพื่อหาแนวทางดูแลในขอบเขตที่สามารถทำได้ ซึ่งหลักสำคัญต้องให้มีรายได้ชดเชยกลุ่มประมงดังกล่าวด้วย



ส่วนความคืบหน้ากระบวนการตรวจสอบใบรับรองสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศยานใหม่ของการบินพลเรือน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับใบรับรองดังกล่าวจะต้องออกให้ทั้งหมด 28 สายการบิน แบ่งกลุ่มการตรวจสอบออกเป็น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก 8 สายการบิน จะเริ่มตรวจสอบในเดือนกันยายนนี้ และใช้เวลาเสร็จสิ้นในเดือนมกราคม 2560 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับสายการบินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ

ข่าวทั้งหมด

X