*เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง/กรธ.ประชุมหาข้อยุติคำถามพ่วง/คนไทยถูกจับในโตเกียวเพราะชิมก่อนซื้อ/

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.

+++การเคลื่อนไหวเงินบาท ยังคงผันผวนต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ 34.61 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากแรงเทขายเงินดอลลาร์เพื่อทำกำไรช่วงสั้นๆ ก่อนรอฟัง ถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันศุกร์นี้   นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เริ่มเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการทั้งนำเข้าและส่งออกที่มีต่อความผันผวน ของค่าเงินบาท โดยช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็น การทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (เฮดจิ้ง) ที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีบางช่วงที่ค่าเงินบาท ค่อนข้างนิ่ง ทำให้ผู้ประกอบการบางกลุ่มวางใจ  จนละเลยการป้องกันความเสี่ยงความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่เกิดขึ้น ยังไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะมีฐานะด้านต่างประเทศที่เข้มแข็ง สะท้อนผ่านเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงกว่า 1.8 แสนล้านดอลลาร์ และยังมียอดซื้อ เงินตราต่างประเทศล่วงหน้า(ฟอร์เวิร์ธ) อีก 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หนี้ต่างประเทศ ทั้งหมดมีเพียง 60% ของเงินสำรอง และระดับของ เงินสำรองยังสูงกว่าหนี้ระยะสั้นถึง 3.3 เท่า การเติบโตจีดีพีที่เริ่มดีขึ้น โดยปี 2558 เติบโตได้ 2.8% และไตรมาส 2 ปีนี้ โตได้ 3.5% เครื่องยนต์ที่เริ่มทำงานได้ดี คือ การใช้จ่ายภาครัฐ และการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีตัวถ่วงหลายตัว บางตัวเริ่มจะคลี่คลายขึ้นบ้างแล้ว เช่น ปัญหาภัยแล้งที่เคยกระทบการบริโภค ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังทรงตัวในระดับค่อนข้างสูง โจทย์ใหญ่ของประเทศคงไม่ได้อยู่ที่ว่า จีดีพีปีนี้จะโตได้มากกว่า 3.5% หรือไม่ แต่อยู่ที่จะปรับโครงสร้าง เศรษฐกิจอย่างไรให้เติบโตได้ในระยะยาว ทำให้มีความสามารถการแข่งขัน ซึ่งจะทำได้ต่อเมื่อมีการปลดล็อกปัญหาด้านอุปทาน

+++วันนี้ 24  ส.ค. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีนัดประชุมครั้งสำคัญเพื่อพิจารณา คำถามพ่วงที่ผ่านประชามติมาใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช. หรือวิป สนช. กล่าวว่า ในวันที่ 24 ส.ค. จะประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช. เพื่อสรุปความเห็นคำถามพ่วงที่ กมธ.ส่งให้ กรธ.นำไปพิจารณา โดยขณะนี้ถือว่าเรื่องคำถามพ่วงของ สนช.นิ่งแล้ว คือการพิจารณาเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกให้ ส.ส.และ ส.ว.สามารถโหวตเลือกนายกฯ ตามบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอมา แต่หากไม่สามารถดำเนินการเลือกนายกฯ ตามบัญชีพรรคการเมืองได้ จะเข้าสู่ก๊อกสอง คือให้สมาชิกรัฐสภา ซึ่งหมายความรวมถึง ส.ว. มีสิทธิเสนอรายชื่อบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งนายกฯ นอกเหนือจากบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอมาได้ หมายถึงมีสิทธิเสนอชื่อคนนอกเป็นนายกฯ ได้ ภายใน 5 ปีแรก หากเลือกนายกฯ เมื่อใด ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวทุกครั้ง หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กรธ.ว่าจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของ สนช.หรือไม่ ถ้า กรธ.ตีความแบบแคบตามลายลักษณ์อักษร ก็ไม่เป็นไร แต่ สนช.ตีความแบบกว้าง

+++ขณะที่นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. ยอมรับว่า กรธ.เห็นไม่ตรงกับ สนช.ตั้งแต่แรกแล้ว จึงนำไปสู่การตั้งคำถามพ่วง แต่เมื่อประชาชนเห็นชอบกับคำถามพ่วง ก็เป็นหน้าที่ของ กรธ.ต้องปรับแก้ ซึ่งก็พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย คาดว่าการประชุม กรธ.ในวันที่ 24 ส.ค.จะชัดเจนขึ้น และน่าจะพิจารณาปรับแก้แล้วเสร็จ สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้

+++นายเจษฎ์ โทณวณิก ที่ปรึกษา กรธ. กล่าวว่า ในการประชุมในวันที่ 24 ส.ค. กรธ.จะพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ซึ่งคำถามพ่วงถามมาประเด็นเดียวคือ รัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ดังนั้นจึงตีความไปมากกว่านี้ไม่ได้ โดย ส.ว.จะมีส่วนในการลงมติเห็นชอบนายกฯ เท่านั้น 

+++สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและยอดประกอบการยานยนต์ เดือน ก.ค. 2559 โดยมีประเด็นน่าติดตาม เช่น 1.ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ปีนี้  c]tยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เดือน ก.ค. .สถิติการขยายตัวของปริมาณขายปูนซีเมนต์ทั่วประเทศ เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม ส.อ.ท. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

+++เตือนคนไทยไปญี่ปุ่น ต้องศึกษาข้อกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ให้ดีหลังสาวไทย ถูกข้อหาลักทรัพย์ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ความเคยชินของคนไทยบางคนที่ “ชิมก่อนซื้อ” การที่เราปล่อยปละละเลยให้การกระทำแบบนี้การเป็นเรื่องธรรมดาขอแค่มาจ่ายเงินซื้อก่อนออกจากร้านอาจไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ในสังคมอื่น เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจ อุรายาซึ จังหวัดชิบะ ว่าคนไทยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ หลายท่านอาจเริ่มสงสัยแล้วว่ามันเกี่ยวกับการ “ชิมก่อนซื้อ” อย่างไร ? ก็เพราะคนไทยรายนี้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น และแวะเข้าร้านขายของที่ระลึกที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ระหว่างนั้นได้เปิดกล่องขนมที่วางขายอยู่ในร้านรับประทานโดยพลการ จึงถูกยามรักษาการณ์จับกุมตัวและแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์

พอถึงสถานีตำรวจ คนไทยรายนี้ได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ว่า “ที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่ประเทศไทย สามารถแกะกล่องและรับประทานได้ ก่อนที่จะนำไปจ่ายเงินต่อพนักงานเก็บเงิน ก่อนที่จะออกจากซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งตนมิได้มีเจตนาจะลักทรัพย์แต่อย่างใด” 

ตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หากกระทำความผิดจะต้องถูกควบคุมไว้ยังสถานที่กักขังของสถานีตำรวจ 10 วัน เพื่อรอการสืบสวนและรอคำสั่งจากอัยการว่าจะปล่อยตัวหรือดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ คนไทยมีสิทธิพำนักในญี่ปุ่นโดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราได้ 15 วัน ดังนั้น หากระยะเวลาการสืบสวนล่วงเลยเกิน 15 วัน ก็จะถูกดำเนินคดีในกรณีอยู่เกินกำหนด (Over stay) เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคดี ซึ่งผลตามกฎหมายขั้นต่ำสุด จะส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ เป็นเวลา 1 ปี

++++ต้องติดตามกันต่อ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ และชาวบ้านใน 4 ชุมชน ที่อยู่บริเวณทางแยกถนนสุขุมวิท-ถนนพัทยากลาง ที่เมืองพัทยา ชลบุรี เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างสะพานลอย และลิฟท์คนพิการ เนื่องจากโครงการนี้ได้งบประมาณจากกระทรวงคมนาคมในการก่อสร้างแล้ว แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้ประกอบการรายหนึ่งได้ออกมาคัดค้าน ด้วยเหตุผลว่าถ้าสร้างสะพานตรงจุดนี้ อาจเกิดผลกระทบกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่  

+++น.ส.ภัทรจิรา เงินกรุง เข้าพบ ร.ต.อ.หญิงรัตน์ชนก บุญนำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีทำร้ายร่างกาย ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ไทยยากรณ์ รอง สว.จราจร สภ.เมืองนนทบุรี โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง  โดยระบุว่าคลิปหลุดไปในโซเชียลได้อย่างไรนั้นไม่ทราบเพราะได้สอบถามเพื่อนแล้วก็ไม่มีใครนำคลิปไปโพสต์ ซึ่งยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำไปเพราะป้องกันตัวเนื่องจากถูกทำร้ายก่อน และพร้อมจะสู้คดีให้ถึงที่สุด  เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา น.ส.ภัทรจิรา ว่า ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติก่อนจะปล่อยตัวไป เนื่องจาก น.ส.ภัทรจิราเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี

+++พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แถลงจับกุมเครือข่ายผลิตน้ำมันเครื่องปลอมใน จ.สมุทรสาคร ยึดของกลางน้ำมันหล่อลื่นปลอมบรรจุขวดพร้อมจำหน่ายหลายยี่ห้อ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ขบวนการดังกล่าวรับซื้อน้ำมันเครื่องเก่าจากโรงงานอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรสาคร และใกล้เคียง แล้วนำมากรองฟอกสี เพื่อเลียนแบบน้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณภาพ ก่อนบรรจุใส่บรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ใกล้เคียงของจริง แล้วส่งขายตามภาคต่างๆ และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา ราคาลิตรละ 150 บาท

+++ล่ากันเป็นทอด ๆ ล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ "POKEMON TRAFFIC NO GO" ภายใต้สโลแกน "ใช้มือถือบนถนนไม่ปลอดภัย เราจับคุณได้" ตามพื้นที่เป้าหมาย 9 ถนน ที่เป็นจุดเสี่ยง ได้แก่ ถนนพระราม 4, ถนนสาทร, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนสุขวิท, ถนนพญาไท, ถนนเพชรบุรี, ถนนอังรีดูนังส์ และถนนพระราม 1 ว่า จากรายงานผลการจับกุมผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดในข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ 42 ราย โดยถนนสุขุมวิทมีผลการจับกุมผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนสูงสุดถึง 18 ราย โดยจะขยายผลบังคับใช้กับถนนทุกสายในพื้นที่ กทม. หากพบว่ามีผู้ขับขี่ฝ่าฝืนก็จะนำ พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 มาบังคับใช้ ทั้งเรื่องการขับรถโดยใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ หรือจอดรถจับโปเกมอนในลักษณะกีดขวางหรือขับรถประมาทหวาดเสียว มีอัตราโทษปรับ 400-1,000 บาท พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า มีประชาชนสงสัยว่าจะจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้อย่างไร ทั้งนี้การจับกุมของเจ้าหน้าที่จะมีการประสานงานกันก่อนถึงทางร่วมทางแยกต่างๆ ส่วนกรณีการจอดรถติดไฟแดงมีผู้สงสัยอีกว่าจะสามารถเล่นโทรศัพท์ได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้แม้ผู้ขับขี่จะจอดรถติดไฟแดงอยู่ก็ถือว่าเป็นการขับรถสามารถเอาผิดได้ ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้จ้องเอาผิดพี่น้องประชาชน แต่เป็นโครงการที่ให้ประชาชนที่ไม่ได้เล่นเกมโปเกมอน หรือแม้แต่คนที่เล่นเกมนี้ได้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ