ตร.เปิดวงจรปิดแกะรอยโจรแฮกตู้ATMธ.ออมสิน พบเคยทำมาแล้วในมาเลย์-ไต้หวัน

23 สิงหาคม 2559, 16:08น.


การติดตามตัวคนร้ายชาวยุโรปตะวันออกที่ก่อเหตุโจรกรรมเงินของตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ 10) กล่าวว่า คนร้ายน่าจะเป็นชาวยุโรปตะวันออกที่ลักลอบเข้าประเทศไทย ก่อนตระเวนปล่อยมัลแวร์เข้าตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ในพื้นที่ กทม.และภาคใต้ ทำให้เงินสดไหลออกมาจำนวนมาก สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท  ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวกลุ่มคนร้าย จากภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในพื้นที่ คาดว่าน่าคนร้ายน่าจะมีประมาณ 2-3 ทีม และน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการประมาณ 25 คน เนื่องจากเหตุเกิดในหลายจุด เริ่มตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพ ทั้งหมด 22 ตู้ นอกจากนี้ธนาคารออมสินยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่สงสัยว่าอาจจะโดนมัลแวร์อีกกว่า 200 ตู้ ทั่วประเทศ


สำหรับพฤติการณ์คนร้ายจะใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการดัดแปลงขึ้นมา เสียบเข้าไปในตู้เพื่อปล่อยมัลแวร์เข้าสู่ระบบของตู้เอทีเอ็ม โดยมัลแวร์ตัวนี้จะกระจายไปสู่ตู้ที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นจะมีสมาชิกของกลุ่มคนร้ายเข้ามารอรับเงินที่ออกมาจากตู้  เมื่อการโจรกรรมแล้วเสร็จ ระบบจะรีเซ็ตเครื่องกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายได้ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมีการนับยอดเงินคงเหลือว่าจำนวนเงินเข้าและออกว่าตรงกันหรือไม่ จากการตรวจสอบคนร้ายจะเลือกเวลาก่อเหตุ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน และจะใช้เวลานานพอสมควร หากประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงพบเห็นกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยคือเป็นชายชาวยุโรป ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสายตรวจที่อยู่ใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด 


นอกจากนี้เจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานได้ส่งฮาร์ดดิสของตู้เอทีเอ็มดังกล่าวไปตรวจสอบที่บริษัทแม็กกาฟี่ สกอตแลนด์ ซึ่งบริษัทที่มีความชำนาญ จากการตรวจสอบพบว่าฮาร์ดดิสดังกล่าวถูกมัลแวร์บล็อกคำสั่งทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ      โดยเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2557  นอกจากนี้ยังมีที่ไต้หวัน ที่ถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับไทยในช่วงเวลาเดียวกัน คือเมื่อเดือนก.ค.  และจากการตรวจสอบของประเทศไต้หวัน พบว่าเซิร์ฟเวอร์ถูกควบคุมมาจากศสวิตเซอร์แลนด์  ถือว่าเป็นแก๊งที่มีความรู้ทางเทคโนโลยีสูงมาก และถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนคนร้ายที่เลือกก่อเหตุเฉพาะธนาคารออมสินนั้น เนื่องจากข้อคนร้ายได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกของตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน จึงเริ่มลงมือกับธนาคารนี้ก่อนเป็นที่แรก พร้อมศึกษาข้อมูลของธนาคารอื่นๆ ด้วย ส่วนแนวทางการติดตามตัวคนร้าย เจ้าหน้าที่บูรณาการการทำงานร่วมกันกับตำรวจในพื้นที่ติดตามพยานพาหะ กล้องวงจรปิด และแหล่งที่พักต่าง เบื้องต้นได้มีการเจ้าหน้าที่ตามจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งกำลังเฝ้าอยู่ 


ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. จะมีการประชุมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และ 8 ร่วมกับตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อหารือแนวทางป้องกันและการติดตามตัวคนร้ายต่อไป


 
ข่าวทั้งหมด

X