“ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” รอด ไม่ถูกขึ้นทะเบียน “มรดกโลกในภาวะอันตราย”

ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 38 ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ มีมติไม่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นมรดกโลกในภาวะอันตราย    นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า  ผืนป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548  ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการปกป้องรักษาผืนป่ามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน  International Union for Conservation of Nature (IUCN) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบมรดกโลกและทำงานให้แก่ คณะกรรมการ มรดกโลก ได้แสดงความห่วงใยต่อภัยคุกคามต่อผืนป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ โดยประเด็นที่ IUCN มีความห่วงกังวลอย่างมากคือ การลักลอบตัดไม้พะยูง และการรุกล้ำพื้นที่มรดกโลก ดงพญาเย็น – เขาใหญ่ และเสนอที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาให้ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นมรดกโลกในภาวะอันตราย

อย่างไรก็ตาม  นายอภิชาติ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูตไทยณ กรุงปารีส ผู้แทนถาวรประจำยูเนสโก เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก ถึงความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา  จากการชี้แจงของไทย ทำให้สมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกเข้าใจและชื่นชมความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชนในพื้นที่ ตลอดจนประชาชนไทยในทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และเห็นว่าปัญหานี้มีความซับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับหลายประเทศซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไข ประกอบกับการที่ไทยมีประวัติและผลงานที่ดีในการทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกับคณะกรรมการมรดกโลก ทำให้ประเทศสมาชิกจำนวนมากสนับสนุนไทยให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยยังไม่ขึ้นทะเบียนดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นมรดกโลกในภาวะอันตรายในการประชุมครั้งนี้

โดยคณะกรรมการมรดกโลกขอให้ไทยจัดทำแผนปฏิบัติการและเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยให้นำเสนอรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2558 พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง

แฟ้มภาพ