ในวันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเสนอรายชื่อการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง หรือข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยนายปณิธาน จินดาภู รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพื้นฐานอุตสาหกรรมและการเหมืองแร่ (กพร.) แทนนายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดี กพร. ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน โดยนายปณิธานเคยเป็นอธิบดี กพร.มาก่อน โดยภารกิจสำคัญของการกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมก็คือการพิจารณาต่ออายุโรงโลหกรรม ของเหมืองแร่ทองคำชาตรี จังหวัดพิจิตร ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด ที่ ครม.มีมติให้ปิดกิจการในสิ้นปีนี้ แต่บริษัทอยู่ ระหว่างขอความเป็นธรรมในการต่ออายุ เพราะบริษัทมีใบประทานบัตรที่จะหมดอายุปี 2571
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) จะเสนอชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มีตำแหน่งว่าง 8 ตำแหน่ง โดยที่ถูกจับตามองก็คือการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แทนนายวีระพงษ์ แพสุวรรณ ที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งมีรายชื่อผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้หลายคน รวมถึง นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) ด้วย
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สั่งการให้กระทรวงการคลังคิดหามาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการเอกชนลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติม จากที่ในปัจจุบันมีมาตรการลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว แต่ยังต้องการสร้างแรงจูงใจให้มีการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น โดยในเบื้องต้นกระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการภาษีเป็นแพ็กเกจ เช่น ให้ผู้ประกอบการที่เริ่มกิจการใหม่ไปลงทุนใน 3 จังหวัดภาคใต้ จะได้ลดหย่อนภาษีมากขึ้นและเป็นเวลานานมากขึ้นกว่าเดิม กับพิจารณาลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบที่อาจไม่ได้ไปตั้งโรงงาน หรือสำนักงานใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน มีการสั่งสินค้าหรือวัตถุดิบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ในการผลิต
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กิโลเมตร (กม.) จะมีการหารืออย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 13 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมีประเด็นหลัก คือ การปรับแก้รายละเอียดในสัญญา Engineering Procurement Construction หรือ EPC2 ซึ่งประกอบด้วย งานออกแบบ งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน และงานระบบ ตัวรถ ซ่อมบำรุง และฝึกอบรม โดยจะแยกส่วนที่ 2.1 ออกมาลงนามก่อน เพื่อเร่งรัดงานออกแบบ กับจะมีการหารือแบบก่อสร้างช่วงที่ 1 ระหว่างสถานีกลางดง-สถานีปางอโศก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ส่วนกำหนดการก่อสร้างที่เคยวางแผนไว้ว่าจะเริ่มได้ภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ อาจไม่เป็นไปตามกำหนดเพราะฝ่ายไทยต้องการให้แบบก่อสร้างมีความชัดเจนและสามารถยอมรับได้ก่อน
โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ จะรายงานรายละเอียดกรอบความร่วมมือ (Framework of Cooperation : FOC) รถไฟไทย-จีน ที่ปรับปรุงใหม่ให้ ครม.รับทราบ ว่าไทยจะมีการลงทุนเองทั้งหมด และงานก่อสร้างจะแบ่งเป็น 4 ช่วง คือ คือ ช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. ซึ่งฝ่ายจีนได้ส่งแบบมาให้ฝ่ายไทยพิจารณาแล้ว แต่ฝ่ายไทยยังมีข้อท้วงติงเพิ่มเติม ช่วงที่ 2 ระยะทาง 10 กม. จีนจะนำส่งแบบรายละเอียดให้ฝ่ายไทยเดือนตุลาคม 2559 ช่วงที่ 3 ระยะทาง 120.5 กม.ฝ่ายจีนจะนำส่งแบบให้ในเดือนธันวาคม 2559 และช่วงที่ 4 ระยะทาง 119 กม. จีนจะส่งแบบรายละเอียดให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560
ก่อนการประชุมครม.วันนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นำคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดกิจกรรม "รถขายอาหารเคลื่อนที่ (Food Truck) ร้านหนูณิชย์"
ศาลนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง 8 แอดมินเพจ เรารักพลเอกประยุทธ์ ที่ ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ ถ.หลักเมือง
ส่วนที่ สน.บางนา นายปิยรัฐ จงเทพ กับพวกอีก 2 คน จะให้การเพิ่มเติม กรณีฉีกบัตรลงประชามติ คาดส่งฟ้องศาลจังหวัดพระโขนง ทันที
*-*