หลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับนายอาหามะ เลงฮะ อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ คดีระเบิดที่ จ.ภูเก็ต สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า หลังจากตรวจสอบจากการลงพื้นที่พบว่า นายอาหามะ มีประวัติเคยถูกออกหมาย ฉฉ. หรือ หมายจับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เมื่อปี 2551 ในคดีต้องสงสัยมีพฤติการณ์เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวให้เข้าพบหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมเข้าพบเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ นายอาหามะ ทำงานอยู่ในโรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่ง ในประเทศมาเลเซีย อยู่ห่างจาก ต.เกาะสะท้อน ประมาณ 15 กิโลเมตร การเดินทางต้องลงเรือไป โดยไปทำงานตลอดสัปดาห์ กลับบ้านทุกๆ วันศุกร์ช่วงปี 2558- 2559 นายอาหามะ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน จะได้ปลดหมาย พ.ร.ก. โดยมีนัดกับเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่มาเจอข้อหาเกี่ยวโยงเหตุระเบิดที่จ. ภูเก็ตอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีหลักฐานดีเอ็นเอที่พบบนชิ้นส่วนระเบิดตรงกับดีเอ็นเอของนายอาหามะ ยังมีหลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ที่จับภาพผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดที่ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ไว้ได้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจเทียบแล้วมีความคล้ายคลึงกับ นายอาหามะ จึงมีการเสนอหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลหมายจับ นายอาหามะ ให้เฝ้าระวังการเดินทางผ่านด่านของนายอาหามะด้วย
อีกมุมหนึ่ง นางยะนะ สะแลแม แกนนำเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 มีผู้เสียชีวิต 85 คน บาดเจ็บจำนวนมาก กล่าวว่า รู้จักนายอาหามะ เพราะทำงานภาคประชาสังคมกับบางกลุ่มที่ทำงานในพื้นที่ นายอาหามะ เป็นคนทำงานเพื่อสังคม ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านกับภาคประชาสังคมตลอด เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนดี ขยัน ไม่เคยมีประวัติเรื่องแบบนี้ ไม่เคยมีคดี ไม่เคยถูกจับ ไม่เชื่อว่าเขาจะทำ ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่เชื่อ ขณะที่ พ่อและแม่ของนายอาหามะเพิ่งทราบเรื่อง รวมทั้งภรรยาด้วย โดยเขามีลูก 2 คน พ่อกับแม่ของอาหามะ บอกกับคนที่ไปสอบถามหลังทราบข่าวเรื่องหมายจับว่า นายอาหามะอยู่มาเลเซีย ยังไม่กลับมา ทุกคนไม่เชื่อกับเรื่องที่ถูกกล่าวหา และตกใจมากกับข่าวที่ออกมา ครอบครัวอาจเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับแม่ทัพภาคที่ 4 หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ เพราะเชื่อว่านายอาหามะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแน่นอน
CR:สำนักข่าวอิศรา