ปธ.กกต.ชี้ ลต.10 ธ.ค.ปี60 ความเห็นส่วนตัว/รรท.ผบช.น.แจงปัญหาไฟจราจร/ชื่นชมชายเร่รอนเก็บเงินส่งคืน

19 สิงหาคม 2559, 08:46น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต.คาดการณ์วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส.)ว่าจะมีขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2560 ว่า เบื้องต้นการกำหนดวันดังกล่าวยังไม่มีการนำมาพิจารณาในที่ประชุม กกต.เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลของนายสมชัย



+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการตั้งเลือกตั้ง (กกต.) คาดการณ์จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 10 ธ.ค. 2560 นั้น อาจเป็นการพูดเล่นธรรมดา โดยนายสมชัยมักจะพูดความคิดของตัวเองหลายเรื่องอยู่แล้ว ไม่ผูกมัด กกต. เหมือนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าบางครั้งเป็นการพูดคาบลูกคาบดอก อย่าไปทึกทักว่าจะต้องพาดหัวหน้าหนึ่งไปหมด ไม่เช่นนั้นจะเครียดไปหมด



++++นายเธียรชัย ณ นคร กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า การที่หลายฝ่ายให้ความเห็นให้เพิ่มอำนาจให้ สว. ทั้งการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้น เห็นว่าจะเป็นเนื้อหาที่เกินกว่าตัวคำถามพ่วง และเชื่อว่า กรธ.ไม่มีเสียงแตกเป็นอย่างอื่น และเห็นตรงกันกับคำให้สัมภาษณ์ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ที่ว่ากระบวนการเลือกนายกฯ ต้องเป็นไป ตามบทหลักของร่างรัฐธรรมนูญ คือ ขั้นตอนที่ 1 การเสนอชื่อนายกฯ ต้อง มาจาก สส.และเป็นไปตามบัญชีของพรรคการเมือง และขั้นตอนที่ 2 หากเลือกบุคคลในบัญชีนายกฯ ของพรรคการเมืองไม่ได้ ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาเพื่อยกเว้นการใช้บัญชีนายกฯ ของพรรคการเมือง



+++นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรธ. กล่าวว่า ในการประชุม กรธ.วันที่ 19 ส.ค.นั้นต้องรับฟังข้อเสนอของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ก็มีหลายประเด็นต้องคำนึงถึงให้รอบคอบ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทางตันทางการเมืองหรือทางออกหากเกิดกรณีที่ไม่สามารถเลือกนายกฯ ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในบทหลักของร่างรัฐธรรมนูญได้



+++ด้าน นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ สนช. และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เดิมในบทหลักรัฐธรรมนูญ สส.จะเป็นผู้เสนอชื่อนายกฯ จากบัญชีที่ไปหาเสียงไว้ เพื่อให้ สส.ด้วยกันเองเป็นคนเลือก ไม่เกี่ยวกับ สว. แต่คำถามพ่วงที่ให้ สว.มีอำนาจร่วมกับ สส.มีสิทธิเลือกนายกฯ จึงตีความว่า เมื่อมีสิทธิโหวตก็ต้องมีสิทธิเสนอด้ว



+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดตัว "สินค้า OTOP ไทยจากท้องถิ่น บินสู่ท้องฟ้า" ตอนหนึ่งระบุว่า ขอยืนยันว่าตนเองอยู่ตามโรดแมป และขออย่าสงสัยว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ผีตัวนั้นยังมาไม่ถึง จึงอย่าให้ผีหลุดออกมาจากหลุม หรือให้คนไม่ดีทำให้บ้านเมืองได้รับความเสียหาย



+++ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ มั่นใจเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ยังคงไม่ดีนัก โดยดัชนีมีค่าต่ำกว่า 100 แต่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะอยู่ที่ 101.9 และไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 103.8 ปรับตัวสูงเกิน 100 สะท้อนว่าภาคธุรกิจ รับรู้ว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และจะปรับตัวเด่นชัดในช่วงครึ่งหลัง ส่งผลให้ทั้งปี 2559 คาดว่า ดัชนีจะอยู่ที่ 98.3 ขณะที่ ในปี 2560 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆส่งผลต่อค่าดัชนีให้ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 119.5 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากการลงทุนของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ผลการสำรวจสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลต่อภาคธุรกิจ พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 40.8 เห็นว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็วในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อธุรกิจ รัฐบาล ควรเข้ามาดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ควรดูแลให้ปรับไปในทิศทางและอัตราใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งสนับสนุนการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น สกัดกั้นการเก็งกำไรของค่าเงิน และสนับสนุนเรื่องการลดต้นทุนในการส่งออกให้มาก



+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำเสนอนโยบายยาเสพติด ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยว่า ผลสำรวจร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการแก้ปัญหายาเสพติดที่ต้องปฏิรูปกฎหมายยาเสพติดให้หมอเป็นผู้นำ และปรับระดับยาบ้า ในบัญชียาเสพติด ที่จะทำให้ลดราคายาบ้าลงเพื่อลดความต้องการค้าและยืนยันจะผลักดันให้ประกาศปรับยาบ้าออกจากยาเสพติดประเภท 1 อาจเป็นประเภท 2 ยืนยันการปราบนำหรือทำสงครามยาเสพติดแก้ปัญหาได้แค่สั้นๆ แต่ระยะยาวแก้ไม่ได้ ทั้งนี้ในการส่วนการปราบปราม ป.ป.ส.ได้จัดทำบัญชีนักค้าไว้แล้วมี 5 กลุ่มใหญ่ 60 เครือข่าย ซึ่งการสกัดกั้นปราบปราม ยังเข้มข้น แต่ใช้หมอ และชุมชนนำแก้ปัญหายาเสพติด



++++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า นักเศรษฐศาสตร์ สศค. นำเสนอผลการศึกษาการส่งเงินสมทบภาคครัวเรือน เพื่อช่วยลดภาระของรัฐบาลจัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในการกู้เงินกับนักเรียน นักศึกษา และมีปัญหาหนี้เสียหลายแสนล้านบาท เสนอให้รัฐบาลสามารถจ่ายเงินอุดหนุนแก่ครัวเรือนที่มีการออมเพื่อการศึกษา โดยครัวเรือนออมเงินให้บุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ออมเท่าไหร่รัฐจะสมทบให้เท่านั้นในอัตราสูงสุดไม่เกินเดือนละ 400 บาท เมื่อสิ้นโครงการจะทำให้เด็กมีเงินออม 122,400 บาท เป็นเงินต้นจากภาคครัวเรือน 7.2 หมื่นบาท เป็นเงินสมทบของรัฐบาล 50,400 บาทสำหรับกองทุน กยศ. ปัจจุบันมีผู้กู้กว่า 4 ล้านราย วงเงินกู้กว่า 4.7 แสนล้านบาท มีผู้ครบกำหนดชาระ 3 ล้านราย แต่ยังค้างชาระ 2 ล้านราย ในจำนวนนี้ชาระหนี้ได้ปกติ 1 ล้านราย ดำเนินคดี 8 แสนราย ไกล่เกลี่ย 1 แสนราย โดยเงินที่ยังค้าง 5.5 หมื่นล้านบาท



+++เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กว่า 80 นาย สนธิกำลังร่วมกับทหารศูนย์ปฏิบัติการที่ 2 กอ.รมน. และตำรวจ เข้าตรวจค้นสถานบริการ 2 แห่งย่านสะพานควาย หลังได้รับการร้องเรียนว่าเปิดบริการอย่างผิดกฎหมาย มีการค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจากการตรวจสอบสามารถคุมตัวหญิงสาวที่ค้าบริการทางเพศได้ 31 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก มีโทษจำคุก 15 ปี กับเจ้าของสถานบันเทิงและผู้ดูแล ประกอบด้วย ร่วมกันค้ามนุษย์อายุต่ำกว่า 18 ปี, เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี, ตั้งสถานค้าประเวณีโดยผิดกฎหมาย และเปิดสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ทั้งนี้ สถานบริการทั้ง 2 แห่งจะถูกปิดเป็นเวลา 5 ปี นายพิริยะ ฉันทะดิรก ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนและนิติกร กรมการปกครอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมเกือบ 3 เดือน จึงล่อซื้อและเข้าจับกุม ส่วนสถานบริการอื่นในละเเวกใกล้เคียงจะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากนี้จะนำตัวหญิงสาวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติด และสอบสวนว่าถูกบังคับขืนใจหรือล่อลวงให้มาค้าประเวณีหรือไม่



+++ไฟกระพริบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีเปิดสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติว่า ช่วงนี้อาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับการจราจร ทำให้หลายๆคนเกิดความสงสัยในข้อสั่งการ ขอชี้แจง 2 กรณี ดังนี้ ในกรณีแรกมีการพูดว่านครบาลสั่งให้ตำรวจจราจรยกเลิกการใช้สัญญาณไฟอัตโนมัติ และให้ตำรวจจราจรมากดสัณญาณไฟด้วยตนเอง คือจริง ๆ แล้ว ที่มีคำสั่งออกไปว่าให้ตำรวจจราจรมากดสัญญาณไฟเองนั้น หมายถึงกรณีที่เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ที่มีการจราจรติดขัด ซึ่งบางเส้นทางอาจจะมีรถเยอะ หรือน้อยก็ตาม แต่ถ้าจุดไหนที่มีการจราจรติดขัด ก็ให้ตำรวจจราจรไปกดสัญญาณด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่กดทั้งวันทั้งคืน



+++ ส่วนกรณีที่สอง คือการใช้สัญญาณไฟกระพริบสีแดง ตัวอย่างเช่น มีธุระตี 1-2 แต่เมื่อถึง 4 แยก ก็ต้องติดไฟแดงที่ตั้งไว้อัตโนมัติ ซึ่งบางคนอาจจะเสียเวลา บางคนอาจจะฝ่าไฟแดง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีตำรวจ เบื้องต้นได้ จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุก สน.ไปสำรวจ ตรวจสอบ เพื่อบรรเทา และมอบความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน รวมทั้งเน้นในเรื่องความปลอดภัยด้วย ซึ่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงนั้น ถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ปี22 มาตรา22 อนุ5 เขียนไว้ว่า เมื่อผู้ขับขี่มาถึงบริเวณทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณไฟกระพริบสีแดง ให้หยุดรถหลังเส้นหยุด(เส้นขาว) ดูให้ปลอดภัย แล้วถึงออกรถได้ ซึ่งในทางกฎหมายแล้วการฝ่าไฟแดงถือว่าผิด แต่ฝ่าไฟกระพริบไม่ผิด แค่รอประมาณ 2-3 วินาทีหยุดรถ เพื่อดูว่าอันตรายหรือไม่ ค่อยออกรถไป จะสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่า ทั้งนี้ยังไม่มีการสั่งให้ดำเนินการ แต่สั่งให้ไปตรวจสอบความเป็นไปได้ ตามจุดที่มีการจราจรติดขัด และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่ทุก สน. แต่เป็นความเหมาะสม และสะดวกด้วย แต่ในพื้นที่ๆมีสถานบันเทิงและสถานบริการนั้น ก็จะไม่มีสัญญาณไฟกระพริบ เพราะว่าเป็นสถานที่ๆมีผู้คนพลุกพล่าน และอาจจะเกิดอันตรายได้ ส่วนมากจะเน้นติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบในแถบปริมณฑลเท่านั้น ทั้งนี้จะเน้นเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน หรือมีการจราจรติดขัดเท่านั้น ที่จะให้ตำรวจตรวจตรามากดสัญญาณไฟ ส่วนกรณีศึกษา และกำหนดมาตราต่างๆ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ถ้าทำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าทำได้ เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนแน่นอน แต่ถ้าทำแล้วเกิดปัญหาก็ยกเลิกไป



+++ต้องตามต่อ กรณี ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ไทยยากรณ์ อายุ 57 ปี รอง สว.จร.เมืองนนทบุรี จับกุมนายอำพล บัวทอง อายุ 29 ปี(ทราบชื่อภายหลังซ้อน 4 คนไม่มีผู้ใดสวมหมวกกันน็อจึง ได้เรียกให้หยุดรถ และได้เชิญตัวนายอำพล(ผู้ขับขี่)และพวก ขับขี่รถจยย.ไปที่ตู้จราจรแยกศรีพรสวรรค์เพื่อให้ผู้ขับขี่รับใบสั่งให้ไปรับรถเพราะไม่มีใบขับขี่และไม่มีสำเนาทะเบียนรถมาแสดง จากนั้นมีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ โดยนางภัทรจิราได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี โดยกล่าวหาว่าร.ต.ท.ประดิษฐ์ทำร้ายร่างกายต่อมา ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่านางภัทรจิรา ว่าทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน/ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่/ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะปฎิบัติการตามหน้าที่และเพื่อป้องกันข้อครหาอันเนื่องมาจากลักษณะท่าทางของรตท.ประดิษฐฯว่าอาจมีอาการเมาสุรา จึงได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยเครื่องเป่าปรากฎว่าไม่มีแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่ารตท.ประดิษฐ์ฯไม่ดืมสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แต่อย่างใด



+++เฟซบุ๊กแฟนเพจ Tarika Patty ได้มีการแชร์เรื่องราวดี ๆ โดยระบุว่า แฟนตนเองได้ทำกระเป๋าเงินหล่นหายซึ่งในนั้นมีเงินอยู่ประมาณ 20,000 บาท ก่อนจะมีคุณลุงใจดีคนหนึ่งเก็บได้ และนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของหลังจากสอบถามลุงใจดีคนที่ว่าก็พบว่าอีกฝายนั้นไม่มีงานทำมาร่วมปีกว่าแล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ เนื่องจากไม่มีเอกสาร นอกจากนี้ ก็ยังอาศัยหน้า MRT ห้วยขวาง เป็นที่หลับนอนทุกวัน ทำให้แฟนตนเองตัดสินใจรับคุณลุงมาทำงาน พร้อมกับให้ที่อยู่ด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็สร้างความดีใจให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

ข่าวทั้งหมด

X